(คลิปข่าว) กลาโหมขู่ตัดงบ กระทบบรรเทาภัยพิบัติ!

คนที่ออกมาแถลงคือ พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ประเด็นที่ชี้แจงสรุปได้ดังนี้

1.การจัดทำงบประมาณต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผู้พิจารณาส่วนใหญ่ในสภาก็คือนักการเมือง (หมายถึงในยุคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รัฐบาลทหาร) ส่วนนี้เองที่นำมาสู่คำอธิบายว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2536-2541 เคยได้รับจัดสรรเฉลี่ยถึง 12.7% ของงบประมาณทั้งหมดของประเทศ จากนั้นเข้าสู่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ งบกลาโหมก็ได้รับจัดสรรลดลงมา เหลือ 7% กว่าๆ มาตลอดจนถึงปัจจุบัน

2.งบปี 62 ได้รับ 2.27 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.57% ของงบทั้งประเทศ แค่คิดเป็น 1.31 ของ GDP (ก็แปลว่าไม่ได้สูง ไม่ได้เพิ่มขึ้นผิดปกติเหมือนที่นักการเมืองโจมตี)

3.เมื่อเปรียบเทียบงบประมาณกระทรวงกลาโหมของไทย กับประเทศอาเซียนแล้ว กระทรวงกลาโหมของไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 6 เทียบเท่ากับฟิลิปปินส์ และหากดูภาพรวมของตัวเลขแต่ละปีแล้ว ประเทศอาเซียนก็จัดสรรงบตามขนาดผลประโยชน์ของประเทศชาติที่มีอยู่ เพื่อเสริมสร้างกำลังของกองทัพในการดูแลประเทศ

4.ทุกรัฐบาลจัดสรรงบให้กระทรวงแต่ละกระทรวงตามขนาดและภารกิจที่ได้รับ โดยกระทรวงกลาโหม ได้รับงบสูงเป็นลำดับที่ 4 รองจากกระทรวงศึกษาธิการ , กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง

5.สำหรับงบกลาโหม ที่เป็นหน่วยความมั่นคง นอกจากภารกิจในการป้องกันประเทศแล้ว ยังต้องมีการรักษาความมั่นคงภายใน การพิทักษ์รักษาสถาบัน ผลประโยชน์ของชาติ การพัฒนาประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนจากเหตุสาธารณภัยต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสนับสนุนรัฐบาล กรณีเกิดปัญหา เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด การตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อนักข่าวถามว่า หากมีการตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลง 10% ตามที่บางพรรคเสนอ จะส่งผลกระทบต่อกองทัพหรือไม่ โฆษกกระทรวงกลาโหม จึงตอบว่า จะส่งผลกระทบในหลายส่วน ไม่ใช่แค่งานด้านความมั่นคงของทหาร แต่กระทบไปถึงการช่วยเหลือประชาชน การแก้ปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ด้วย

โฆษกลาโหม ย้ำทิ้งท้ายว่า การจัดทำงบประมาณในสมัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ในกระบวนการที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และการเป็นรัฐบาลทหาร ก็ไม่ได้เอื้อให้กับกองทัพในการจัดสรรงบประมาณ ทื่สำคัญ งบประมาณของประเทศคือภาษีของประชาชน ซึ่งทหารและข้าราชการทุกคนก็เสียภาษีด้วยเช่นกัน