svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

(คลิปข่าว) "หนักแผ่นดิน" บาน-รุมวิจารณ์ ผบ.ทบ.

19 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากประเด็นสิ่งแวดล้อม กลับเข้าสู่โหมดการเมืองกันต่อ ช่วงนี้ไม่มีอะไรร้อนแรงเท่าวลี "หนักแผ่นดิน" อีกแล้ว หลังจาก ผบ.ทบ. "บิ๊กแดง" พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกมาไล่ให้พรรคการเมืองที่ชูนโยบายปรับลดงบกลาโหม และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ไปฟังเพลง "หนักแผ่นดิน" ปรากฏว่าวันนี้บรรดาพรรคการเมืองได้ออกมาตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อน

เริ่มจากพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งกำลังโดนคดียุบพรรคจากกรณี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" วันนี้บรรดาแกนนำตั้งโต๊ะแถลงข่าว นอกจากจะประกาศกลับลำ เดินหน้าสู่เส้นทางการหาเสียงเลือกตั้งต่อไปแล้ว (ทั้งๆ ที่เมื่อวานหัวหน้าพรรค ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช พูดอีกอย่าง และเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งบอกว่าจะงดกิจกรรมหาเสียงทุกประเภท) ล่าสุดแกนนำพรรคไทยรักษาชาติยังตั้งโต๊ะวิจารณ์ ผบ.ทบ.ด้วยว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากกรณี "เพลงหนักแผ่นดิน"

ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจาก ผบ.ทบ.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่แสดงออกไม่เป็นกลางทางการเมือง และให้ร้ายพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องที่ผิดระเบียบและกฎหมาย ทั้งยังแสดงให้เห็นว่า ผบ.ทบ.ไม่มีความเข้าใจในกติกาประชาธิปไตย เพราะไม่ว่าพรรคการเมืองจะหาเสียงเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร หน่วยงานราชการก็ไม่ควรออกมาต่อต้าน ขณะที่การเปิดเพลงหนักแผ่นดิน เคยทำให้เกิดการสังหารหมู่นักศึกษาและประชาชนในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 มาแล้ว ฉะนั้นผู้บัญชาการทหารบกควรประพฤติตัวเสียใหม่

ขณะที่ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งเป็นอดีตแกนนำ นปช. บอกคล้ายๆ กันว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา งบประมาณของกระทรวงกลาโหมมีอัตราเพิ่มขึ้นตลอด และสูงกว่ากระทรวงอื่นๆ จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันตระหนัก รวมทั้งขอให้ผู้บัญชาการทหารบกรักษาความเป็นกลาง ความน่าเชื่อถือ เพราะการแสดงออกทางการเมืองเป็นการส่งสัญญาณความขัดแย้ง

จากแกนนำ นปช. ไปต่อกันที่อดีตประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งวันนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ โดยนายจตุพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บางพรรคการเมืองชูนโยบายตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม จนถูก ผบ.ทบ.ไล่ให้ไปฟังเพลง "หนักแผ่นดิน" ว่า อยากให้กองทัพยอมรับความจริงว่า ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจเกิดขึ้น งบประมาณของกระทรวงกลาโหมก็จะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ซึ่งจะไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชน แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะนำงบในส่วนนี้ไปแก้ไขปัญหาความยากจนก่อน

ส่วนเพลงหนักแผ่นดิน แต่งขึ้นเมื่อปี 2518 เจตนารมณ์ตอนนั้นมีไว้เพื่อสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นภายในชาติ แม้ว่าวันนี้ ผบ.ทบ.จะสั่งยกเลิกไม่ให้เปิดเพลงหนักแผ่นดินออกอากาศทางสถานีวิทยุกองทัพบกแล้ว แต่การใช้เสียงตามสายเปิดเพลงหนักแผ่นดินตามหน่วยทหาร ก็ไม่ควรเกิดขึ้น วันนี้เราต้องลดเงื่อนไขต่างๆ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเพลงหนักแผ่นดินจะเป็นตัวจุดชนวนนำไปสู่การล้มการเลือกตั้ง

จัดหนักกันมาแล้วหลายคน หันไปฟังแนวคิดประเด็นเดียวกันจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บ้าง คุณอภิสิทธิ์ พูดถึงนโยบายตัดงบกลาโหม 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ว่า สิ่งที่ลดได้คือกำลังพลของกองทัพ ส่วนการลดงบกลาโหม ต้องดูความจำเป็น อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานควรทำ ไม่ใช่เฉพาะกองทัพ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เคยทำได้ในรอบ 10 ปี สมัยเป็นรัฐบาลเมื่อปี 2553 และยังได้เสนอเกี่ยวกับการใช้งบกลาง ที่นายกฯสามารถอนุมัติไปใช้ได้ ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน ก็จะมีเงินไปทำเรื่องอื่นที่จำเป็นไม่แพ้กัน เช่น เรื่องสวัสดิการ และปากท้องของประชาชน

สำหรับการปรับลดงบกลาโหมตามที่คุณอภิสิทธิ์พูดถึง ในปีงบประมาณ 2553 คือช่วงที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้ปรับลดงบกระทรวงกลาโหม จากราวๆ 1.7 แสนล้านบาท เหลือ 1.54 แสนล้านบาท คือปรับลดกว่า 1 หมื่นล้านบาท

logoline