ข้อมูลจากเว็บไซต์ "อีสต์ เอเชีย ฟอรั่ม" เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ระบุว่า ในขณะที่หลายภูมิภาคของโลกพากันลดงบประมาณทางทหารลง แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับสวนทาง โดยเพิ่มขึ้่นเป็น 2 เท่าจากเมื่อ 15 ปีที่ก่อน โดยเฉพาะอินโดนีเซียกับไทยที่งบประมาณด้านการป้องกันประเทศเติบโตขึ้นเฉลี่ย 10% แบบปีต่อปี
งบประมาณด้านการป้องกันประเทศถูกใช้ไปกับการซื้อเรือฟริเกต รถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบ และเรือดำน้ำ โดยเวียดนามนำเข้าอาวุธเพิ่มขึ้นเกือบ 700% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กระโดดจากผู้นำเข้าอาวุธมากที่สุดในโลกอันดับที่ 43 ไปติดอันดับ TOP10 (ท็อปเท็น) เลยทีเดียว
การแข่งขันกันด้านอาวุธ มีปัจจัยจากการผงาดขึ้นของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเฟดตัวออกไปของสหรัฐ และการพิพาทกันเองระหว่างประเทศในอาเซียน รวมถึงปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งกระทบกับหลายประเทศในภูมิภาค
ขณะที่ข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติ หรีอ SIPRI ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระว่าด้วยความมั่นคงระหว่างประเทศ การใช้อาวุธ และการลดอาวุธในประเทศต่างๆ ระบุว่า ในปี 60 ประเทศไทยตั้งงบในภารกิจป้องกันประเทศสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เป้นรองเพียงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย