svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ป.ป.ช.ยกอุทธรณ์ ปลัด อบต.ฉาวทุจริตแต่ได้ 2 ขั้น

07 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีความคืบหน้าประเด็นเกาะติดของ "ล่าความจริง" ที่เราเคยเปิดประเด็นเอาไว้ คือ กรณีปลัด อบต.แห่งหนึ่งในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา อำเภอใต้สุดแดนสยาม โดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ทุจริตต่อหน้าที่ราชการไปแล้ว แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเจ้าตัวยื่นอุทธรณ์ผ่านตัวเองในฐานะผู้บังคับบัญชาไปยัง ป.ป.ช. กระทั่งหน่วยงานผู้รับผิดชอบในพื้นที่ไม่สามารถลงมติไล่ออกจากราชการได้ แถมยังได้โบนัส "ขึ้นเงินเดือน 2 ขั้นกรณีพิเศษ" อีกต่างหาก จนมึนกันทั้งประเทศว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในรัฐบาลที่จริงจังกับการปราบโกง

ปลัด อบต.รายนี้ คือ นางปัทมา อิสเฮาะ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ กรณีจัดโครงการพาผู้นำชุมชนและสตรีตำบลยะรม ไปทัศนศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่จังหวัดสตูล เมื่อปี 57 แต่ภายหลังถูกตรวจสอบพบว่าไม่ได้ไปศึกษาดูงานจริง แต่พากันไปท่องเที่ยวที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย และมีการจัดทำเอกสารเท็จเพื่อเบิกจ่ายงบประมาณ โดยมติ ป.ป.ช.สรุปว่าผิดจริง ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือน ส.ค.61 ที่ผ่านมา

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ หรือ "กฎหมาย ป.ป.ช." มาตรา 98 กำหนดเอาไว้ว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่รัฐรายใดแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเจ้าหน้าที่รัฐผู้นั้น พิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลภายใน 30 วัน โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยซ้ำอีก ซึ่งในกรณีของปลัด อบต. ผู้ที่มีอำนาจถอดถอนจากตำแหน่งคือ "ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา" โดยความเห็นชอบของ "คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดยะลา" หรือ "ก.อบต.ยะลา"

แต่ปรากฏว่า นางปัทมา ในฐานะปลัด อบต. ได้ทำหนังสืออุทธรณ์ไปยังผู้บังคับบัญชา คือ "นายก อบต." ซึ่งตัวนางปัทมาเองปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.อยู่ เพราะนายก อบต.ตัวจริงถูกสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ในความผิดฐานทุจริต จึงเท่ากับเป็นการยื่นหนังสืออุทธรณ์ตัวเอง แล้วตัวเองก็ลงนามในหนังสือส่งถึง ป.ป.ช.จังหวัดยะลา อ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงมติชี้มูลของ ป.ป.ช.ได้ ซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.เปิดช่องไว้ในมาตรา 99 ทำให้ ป.ป.ช.ยะลา จำเป็นต้องส่งเรื่องอุทธรณ์ไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในส่วนกลาง เพื่อรอการวินิจฉัย

สำหรับกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 99 ระบุว่า ในการพิจารณาลงโทษทางวินัยตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หาก "ผู้บังคับบัญชา" หรือ "ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน" มีพยานหลักฐานใหม่อันแสดงได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามิได้มีการกระทำความผิดตามที่กล่าวหา หรือกระทำความผิดในฐานความผิดที่แตกต่างจากที่ถูกกล่าวหา ให้ "ผู้บังคับบัญชา" หรือ "ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน" มีหนังสือพร้อมเอกสารและพยานหลักฐานถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนมตินั้นได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นอกจากนั้น ปลัด อบต.รายนี้ยังทำหนังสือถึง "ก.อบต.ยะลา" เพื่อขอให้ชะลอการพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงของตนเองเอาไว้ก่อน โดยอ้างว่าได้ยื่นอุทธรณ์ (อุทธรณ์ตัวเอง) ไปยัง ป.ป.ช.แล้ว เรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ทำให้ปลัด อบต.ยังคงทำงานได้ตามปกติจนถึงปัจจุบัน ทั้งๆ ที่พ้นเวลา 30 วันที่ผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาโทษตามมติ ป.ป.ช.และตามที่กฎหมายกำหนดมานานมากแล้ว

นี่คือความเป็นมาทั้งหมด ล่าสุด "ทีมล่าความจริง" ได้รับคำยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงใน ป.ป.ช.ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของ นางปัทมา ปลัด อบต.ยะรมแล้ว และมีมติให้ยกคำร้อง (หมายถึงยกอุทธรณ์ คือไม่รับอุทธรณ์นั่นเอง) ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องไปยังจังหวัดยะลา และส่งต่อไปให้ "สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดยะลา" ดำเนินการต่อ ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช.ให้ผู้ที่มีอำนาจถอดถอนจากตำแหน่ง ก็คือ "ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา" โดยความเห็นชอบของ "ก.อบต." เป็นผู้ลงมติในขั้้นตอนสุดท้าย

"ทีมล่าความจริง" เดินทางไปหา นายอำเภอเบตง พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ เพื่อสอบถามเรื่องนี้ ได้ความว่า เมื่อ ป.ป.ช.ยกคำร้องอุทธรณ์ของปลัด อบต.ยะรม ก็จะแจ้งผลมาที่จังหวัด จากนั้น "ก.อบต." จะเรียกประชุม เพื่อพิจารณาลงโทษตามความผิดที่ ป.ป.ช.ชี้มูล

เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปล่อยปละละเลยจนการดำเนินการล่าช้า แต่เป็นเพราะปลัดอบต.ยื่นอุทธรณ์ตามช่องทางกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 99 ที่ให้สิทธิ์และโอกาสแก่ผู้ถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงให้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ผ่านผู้บังคับบัญชาหากมีหลักฐานใหม่ ที่ผ่านมาปลัด อบต.ใช้สิทธิ์ตรงนั้น ฉะนั้นเมื่อ ป.ป.ช.ส่งเรื่องกลับมาเมื่อไหร่ วันนั้นก็จะเป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

จากขั้นตอนทั้งหมด เป้าหมายต่อไปที่จะต้องรับผิดชอบและสานต่อเรื่องนี้ คือ "สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดยะลา" ล่าความจริงจึงส่งทีมข่าวไปขอสัมภาษณ์ คุณวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดยะลา คุณวิญญู บอกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อมีประเด็นที่ปลัด อบต.ยะรม ยื่นอุทธรณ์ ทางท้องถิ่นจังหวัดยะลาได้มีหนังสือหารือไปยัง ป.ป.ช.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ปรากฏว่า ป.ป.ช.ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ และตอบหนังสือมาว่าได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมแล้วเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ส่งมติมาให้ เมื่อทาง ป.ป.ช.ส่งมติมา ก็จะดำเนินการต่อทันที

ขณะนี้ท้องถิ่นจังหวัดยะลา ยังไม่ได้รับหนังสือใดๆ จาก ป.ป.ช.ส่วนกลาง ทราบว่าเมื่อมีหนังสือผลดำเนินการใดๆ ก็จะแจ้งหนังสือมา หากได้รับหนังสื่อจากป.ป.ช. ทางจังหวัดยะลาก็จะส่งไปยังอนุฯวินัย เพื่อยังความเห็นเสนอ ก.อบต.ในการสรุปบทลงโทษต่อปลัดอบต.ยะรมต่อไป โดยในขั้นตอนสุดท้ายนี้ใช้ระยะเวลาพิจารณาจาก ก.อบต.ในเรื่องบทลงโทษปลัดอบต.คนอื่น ใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ต้องอยู่ที่คณะกรรมการว่าบทลงโทษขั้นสูงสุขอย่างไร ส่วนตัวผมให้คำตอบไม่ได้

โยนกลางวุ่น! ถอดชื่อ-เรียกโบนัสคืน

สำหรับกรณีปลัด อบต.ยะรม ต้องย้อนความกันหน่อย "ล่าความจริง" ได้เปิดประเด็นที่ ปลัด อบต.ถูก ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป และสังคมไม่ทราบมาก่อนว่ามีการยื่นอุทธรณ์โดยใช้ช่องทางตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 99 ที่แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นใหม่ ทำให้ปลัด อบต.ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ตามปกติเหมือนไม่ได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช.

แต่เรื่องมาแดงขึ้นเมื่อ "ล่าความจริง" เปิดโปงข้อมูลว่า ปลัดอบต.รายนี้มีชื่อได้รับ "โบนัส 2 ขั้นกรณีพิเศษ" ตามโครงการ "เลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควต้าปกติ" สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายพลเรือนซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2560 ด้วย ซึ่งเป็นโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ทำนองสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ทำให้เกิดคำถามว่า ปลัด อบต.ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตไปแล้ว เหตุใดจึงได้รับโบนัสขึ้นเงินเดือน 2 ขั้นเป็นกรณีพิเศษอีก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติกันอย่างไร

ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษฯ ในส่วนของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้มีมติทบทวนและเสนอถอดถอนรายชื่อปลัด อบต.รายนี้ ทั้งยังพบว่าผู้ที่ได้รับ "โบนัส 2 ขั้นกรณีพิเศษ" ในคราวเดียวกัน ยังมีลูกน้องอีก 2 คนของปลัด อบต.ยะรม ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง กรณีนำงบศึกษาดูงานไปใช้ท่องเที่ยวที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย และทำเอกสารเบิกจ่ายอันเป็นเท็จรวมอยู่ด้วย ทางคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติฯ จึงส่งเรื่องให้ ศอ.บต.ถอดถอนรายชื่อในคราวเดียวกัน

ล่าสุดเรื่อง "โบนัส 2 ขั้น" ทีมล่าความจริงได้สอบถามไปยัง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นายอิสระ ละอองกุล ได้รับคำตอบว่า ทาง ศอ.บต.ได้ให้ทางจังหวัดยะลา พิจารณาตามความเหมาะสมแล้ว ส่วนการตัดสินใจอยู่ที่ทางจังหวัด

สรุปก็ยังไม่มีคำตอบว่าสุดท้ายที่ได้ 2 ขั้นกรณีพิเศษไป ถูกถอนชื่อและเรียกคืนเงินหรือยัง เพราะไม่มีใครให้คำตอบได้ นี่ยังไม่นับเงินเดือนที่รับต่อเนื่องอยู่ในฐานะปลัด อบต.ด้วย หากถูกลงโทษให้ออกจากราชการ คำสั่งให้ออกจะมีผลย้อนหลังหรือไม่ เรื่องนี้ยังมีหลายประเด็นที่ต้องตามกันต่อไป

logoline