svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-ยิ่งรัก" พรึ่บ! สนามเลือกตั้ง

05 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อีกหนึ่งประเด็นที่สืบเนื่องจากการสมัครรับเลือกตั้ง และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก ก็คือกรณีที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ พากันเปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ" บ้าง "ยิ่งลักษณ์" บ้าง นัยว่าเพื่อสื่อถึง "2 อดีตนายกฯคนแดนไกล" ที่หนีคดีไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แต่ชาวบ้านก็ยังคิดถึงอยู่



จากการไล่เรียงตรวจสอบของ "ทีมล่าความจริง" พบว่าผู้สมัคร ส.ส.ที่เปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ"บ้าง "ยิ่งลักษณ์" บ้าง ไม่ได้มีแค่คนสองคน แต่มีถึง 15 คน เป็นชื่อ "ทักษิณ" 11 คน "ยิ่งลักษณ์" และ "ยิ่งรัก" 4 คน และลงสมัครกระจายอยู่ในเขตเลือกตั้ง 8 จังหวัด ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง แยกเป็น เชียงใหม่ 1 เขต , พะเยา 2 เขต , แพร่ 1 เขต , ลำปาง 2 เขต , ลำพูน 1 เขต , อุทัยธานี 2 เขต , โคราช 4 เขต , สุรินทร์อีก 2 เขต เฉพาะสุรินทร์ เป็นน้องสาวและภรรยาของ จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต ส.ส.และอดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่รู้จักกันในนาม "จ่าประสิทธิ์" โดยน้องสาวจ่าประสิทธิ์ ใช้ชื่อ "ยิ่งรัก" ส่วนภรรยาใช้ชื่อ "ยิ่งลักษณ์"

เรื่องนี้ต้องบอกว่าพูดกันตั้งแต่นายกฯ , กกต. ลามไปถึงนักกฎหมาย และนักวิชาการกันเลยทีเดียว เริ่มจากนายกฯก่อน "ลุงตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่า เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกันสำหรับประเทศไทย แต่ตัวท่านเองไม่สนใจ

ท่านนายกฯพูดทำนองว่าให้ไปถาม กกต. วันนี้นักข่าวก็ไปถามมา ประเด็นที่ทุกคนสนใจก็คือ การทำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิด ถือว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ปรากฎว่ารองเลขาธิการ กกต. คุณณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล บอกว่า เป็นสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ ไม่ได้กระทบอะไร แต่พี่น้องประชาชนต้องจับตาดูว่าจะมีคะแนนหรือไม่มีคะแนน ส่วนตัวมองว่าเป็นสีสันของการเลือกตั้ง

ไม่ใช่แค่ กกต.ที่บอกไม่ผิด แต่รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย อาจารย์ วิษณุ เครืองาม ก็บอกไม่ผิด โดยย้ำว่าส่วนตัวไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร เพราะผู้สมัครตัดสินใจกันเองที่จะเปลี่ยนชื่อ แม้จะเป็นชื่อของผู้ที่ถูกดำเนินคดีก็ไม่เป็นอะไร เพราะทุกคนสามารถเปลี่ยนชื่อกันได้ ถ้าคิดว่าเปลี่ยนแล้วดีก็เปลี่ยนไป จะเอาทุกทาง ทุกเทคนิคก็ไม่เป็นอะไร แต่ก็ออกตัวว่าที่พูดมาเป็นความเห็นส่วนตัว แต่บทสรุปสุดท้ายต้องไปถาม กกต.

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งรับผิดชอบงานทะเบียนราษฏร บอกว่า ตามกฎหมายแล้วทุกคนสามารถขอเปลี่ยนชื่อได้ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช้คำหยาบ ไม่พ้องกับพระนามาภิไธย

ส่วนการเปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" พลเอกอนุพงษ์ ไม่ขอวิจารณ์ เพราะจะทำให้เกิดส่วนได้ส่วนเสีย

มีสื่อบางแขนงไปตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร พบว่าในช่วง 3 เดือนมานี้ มีคนไทยเปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ" 23 คน "ยิ่งลักษณ์" 6 คน แสดงว่ามีคนทั่วไปที่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ไปเปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ด้วย

ไปฟังนักวิชาการกันบ้าง อาจารย์สติธร ธนานิธิโชติ นักรัฐศาสตร์ สถาบันพระปกเกล้า บอกว่า เรื่องเปลี่ยนชื่อคงเอาผิดตามกฎหมายไม่ได้ เพราะการเปลี่ยนชื่อเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล และเป็นการกระทำของผู้สมัคร ไม่ใช่ของพรรคการเมือง รวมถึงไม่ได้ทำผิดกฎเหล็กของ กกต.ที่ห้ามมีภาพของ "คนนอกพรรค" ถ่ายคู่กับผู้สมัครในลักษณะจูงใจให้ประชาชนลงคะแนนด้วย

ขณะที่ อาจารย์คมสัน โพธิ์คง จากมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเคยทำงานใน กกต. บอกแบบเดียวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดตามกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของผู้สมัครแต่ละคน ยกเว้นพรรคแอบกำหนดเป็นนโยบายหรือรู้เห็นด้วย แต่พรรคก็ไม่ยอมรับอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม ก็ต้องรอดูว่าประชาชนจะลงคะแนนให้หรือเปล่า แต่คำถามคือ วันที่ 24 มีนาคมจะมีการเลือกตั้งจริงหรือไม่ เพราะมีข่าวลือค่อนข้างแรงว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง

logoline