svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

Nation Election 2019 EP.28 "นักการเมืองหน้าใหม่" กับโอกาสลุ้นเข้าสภา

23 มกราคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การเลือกตั้งหนนี้ ต้องบอกว่าเป็นการเลือกตั้งที่กระแส "คนรุ่นใหม่" และ "คนหน้าใหม่ทางการเมือง" มาแรงจริงๆ นักการเมืองหน้าใหม่ที่เปิดตัว เปิดหน้า อวดโฉมกันมาแล้ว แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรก ใหญ่ที่สุด เป็นกลุ่มลูกหลานนักการเมืองหน้าเดิม ที่เรียกว่า "กลุ่มตระกูลการเมือง" อย่าง น้องไอติม หลานชายของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น้องปลื้ม ลูกชายของ ชวน หลีกภัย  ต้น ณ ระนอง ลูกชายของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย  
กลุ่มที่สอง คือกลุ่ม "คนหน้าใหม่จริง" เรียกว่า "ใหม่ถอดด้าม" โดยมากเป็นนักธุรกิจ "นิวเจนฯ" หรือไม่ก็นักวิชาการที่กำลังมาแรง อย่าง มาดามเดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดยู 23 หรือ อาจารย์ปิยะบุตร แสงกนกกุล จากคณะนิติราษฎร์ 

กลุ่มที่สาม คือกลุ่มคนดัง ดารา นักร้อง กลุ่มนี้นำทีมโดย ฟิล์มรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ โปรช้าง ธงชัย ใจดี โปรกอล์ฟชื่อก้อง อดีตนางงามยังสวยอย่าง เนย ณหทัย เล็กบำรุง

คำถามที่หลายคนสนใจ โดยเฉพาะบรรดา FC หรือ "แฟนคลับ"ของสาวสวยหนุ่มหล่อเหล่านี้ก็คือพวกเขามีโอกาสแค่ไหนในการเดินเฉิดฉายเข้าสู่สภาหินอ่อน

หากย้อนไปอ่านงานวิจัยที่ชื่อ "ตระกูลนักการเมือง" ของอาจารย์หนุ่มหล่อ สติธร ธนานิธิโชติที่เก็บข้อมูลจากการเลือกตั้งย้อนหลังกลับไปหลายครั้ง จะพบว่าการเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2554 ซึ่งมี ส.ส.ระบบแบ่งเขต 375 คน มีนักการเมืองหน้าใหม่ฝ่าสมรภูมิเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภาในฐานะ"ส.ส.หน้าใหม่" ได้เพียง 85 คนเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 22.67 ของส.ส.แบบแบ่งเขตทั้งหมด 375 ชีวิต หรือราวๆ 1 ใน 5

ยิ่งไปกว่านั้น ในจำนวน "ส.ส.หน้าใหม่" 85 คนยังเป็นกลุ่มตระกูลการเมือง หรือลูกหลานนักการเมืองถึง 37 คน คิดเป็นร้อยละ 43.5ของ ส.ส.หน้าใหม่ทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 48 คน หรือร้อยละ 56.5 เป็น"หน้าใหม่ซิงๆ"

 

จะเห็นได้ว่าโอกาสของนักการเมืองหน้าใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ใช่ลูกหลานนักการเมือง ที่จะประสบความสำเร็จ ได้เป็นส.ส.ผู้ทรงเกียรติ มีเพียง 48 คนจาก 375 คน คิดเป็นร้อยละ 12.8 หรือราวๆ 1 ใน 10เท่านั้นเอง

และต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งปี 54 เป็นการเลือกตั้งแบบ 2 ระบบ คือส.ส.เขต กับปาร์ตี้ลิสต์ แยกบัตรกัน ฉะนั้นประชาชนคนใช้สิทธิ์ยังเลือกลงคะแนนแบบ"รักพี่เสียดายน้อง" ได้ คือเลือกทั้ง "คนที่ใช่" และ"พรรคที่ชอบ" แต่การเลือกตั้งครั้งใหม่ปีหน้านี้จะเป็นการเลือกตั้งแบบ "บัตรเดียว" ทำให้อดีตส.ส.เก่าที่มีฐานคะแนนอยู่แล้ว กับนักการเมืองหน้าใหม่ประเภท"กลุ่มตระกูลการเมือง" ได้เปรียบมากกว่า เพราะมีฐานเสียงและความนิยมจากพ่อแม่พี่ป้าน้าอา ส่งต่อใส่พานมารอไว้ให้


โอกาสของคนดัง ดารา และพวก "หน้าใหม่ซิงๆ" จึงมีไม่มากนักหากเลือกลงปาร์ตี้ลิสต์ ก็ต้องอาศัยคะแนนจาก ส.ส.เขตมาช่วยอยู่ดี

 

ฉะนั้นเลือกตั้งหนนี้ บรรดา FC ของ "นักการเมืองหน้าใหม่"คงต้องออกแรงเป็น "ป๋าดัน" กันมากเป็นพิเศษ หากคิดจะให้ "คนรุ่นใหม่" มีโอกาสเข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้อย่างที่ตั้งความหวัง

 

นลิน สิงหพุทธางกูร / เนชั่นทีวี / รายงาน

logoline