เปิดข้อมูล "ปืนล่าสัตว์" ครอบครองได้ไม่จำกัด?

ก่อนอื่นไปทำความรู้จักคำว่า "ปืนไรเฟิล" กันก่อน "ล่าความจริง" ได้ข้อมูลจากอดีตนายตำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน เรียกว่าเป็นมือระดับต้นๆ ของประเทศว่า คำว่า "ปืนไรเฟิล" ในวงการนักเล่นปืนจะรู้กันดีว่าหมายความรวมๆ ถึง "ปืนยาว" ทุกชนิด ส่วนปืนไรเฟิลที่ใช้ล่าสัตว์ ตามกฎหมายสามารถขออนุญาตครอบครองได้ โดยจะต้องมีขนาดกระสุนไม่เกิน .45 นิ้ว เท่านั้น และต้องเป็นปืนไรเฟิลแบบ "ยิงทีละนัด" หากเป็นปืนไรเฟิลแบบยิงได้เป็นชุด หรือยิงอัตโนมัติ ไม่สามารถขออนุญาตครอบครองได้

สำหรับปืนไรเฟิลที่พบในบ้านของคุณเปรมชัย เท่าที่ทราบข้อมูล มีขนาดกระสุนระหว่าง .22 ถึง .416 นิ้ว จึงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายให้ครอบครองได้ โดยปืนไรเฟิลขนาด .22 เรียกง่ายๆ ว่า "ปืนลูกกรด" เป็นกระสุนขนาดเล็ก ใช้ยิงพวกสัตว์เล็กๆ ไม่สามารถยิงสัตว์ใหญ่ได้ หากจะใช้ยิงสัตว์ใหญ่ ต้องใช้ปืนที่มีกระสุนขนาดใหญ่ เช่น .416 นิ้ว หรือ .45 นิ้ว

การครอบครองปืนไรเฟิล ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สามารถขออนุญาตครอบครองเท่าไหร่ก็ได้ เป็นร้อยกระบอกก็ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ เพียงแต่ต้องมีขนาดกระสุนไม่เกินที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ส่วนปืนยาวที่พบในป่าขณะจับกุมคุณเปรมชัย ล่าความจริงได้ข้อมูลจาก นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาวุธปืนแห่งประเทศไทย ว่า หนึ่งในนั้นคือปืน steyr ขนาด .30 นิ้ว ถูกออกแบบและผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1906 ใช้ในกองทัพสหรัฐเป็นหลัก ปัจจุบันปลดประจำการแล้ว ฉะนั้นปืนสไตเออร์จึงเป็นปืนรุ่นเก่า ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป มีอานุภาพทำลายล้างขนาดกลาง ราคาแพงพอสมควร และสามารถขออนุญาตครอบครองได้ตามกฎหมาย
นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาวุธปืนฯ บอกด้วยว่า หากจะให้ประเมินราคาปืนยาวที่พบในบ้านคุณเปรมชัย ราคาอยู่ที่หลักแสนบาท แต่ไม่ได้มีขายทั่วไปในตลาดค้าปืน สามารถหาซื้อได้จาก "นักเล่นปืน" ประเภทเดียวกัน
นี่คือข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่เรานำมาฝากกัน แต่คำถามที่สังคมยังคงคาใจก็คือ สมมติว่าบ้านเราห้ามล่าสัตว์ป่า เหตุใดกฎหมายถึงยังอนุญาตให้ครอบครองปืนไรเฟิลสำหรับล่าสัตว์ใหญ่ๆ ได้ และยังให้ครอบครองได้ไม่จำกัดจำนวนอีกด้วย นี่คือโจทย์ใหญ่อีกข้อหนึ่งที่ระดับนโยบายควรนำไปพิจารณา