เพจเฟสบุ๊ก Poramet Misomphop ของหนุ่มจิตอาสาได้นำเรื่องราวของแม่ที่ต้องดูแลลูก ร่างกายผิดปกติมีความพิการด้านสมอง ซึ่งมีสติปัญญาเพียงแค่เด็ก ทารก ซึ่งได้โพสต์ข้อความว่า ถ้าคุณไม่มีลูกพิการ คุณจะไม่เข้าใจเลย เรามีกันแค่ 2 คนหากแม่เลือกได้ แม่อยากให้เค้า ตายก่อนแม่
ทั้งนี้ เมศได้เล่าเรื่องราวว่า ใครจะไปคาดคิดล่ะครับว่า ในใจกลางเมือง จังหวัด นนทบุรี จะมีเรื่องที่หดหู่แบบนี้เกิดขึ้น หากได้เดินผ่านประตูเหล็กแล้วมองผ่านหน้าต่าง มุ้งลวด จะเห็นเงาตะคุ่มตะคุ่มของคนคนนึงที่นั่งอยู่มุมห้อง และเมื่อเปิดประตูไม้ ที่ถูกปิดอยู่ ทันทีที่เปิดไฟจะเห็นชายวัยกลางคน นั่งยองๆกอดเข่า อยู่มุมห้อง ส่วนภายในห้อง ไม่มีข้าวของเครื่องใช้อะไรเลย มีเพียง เก้าอี้ผ้าใบปรับนอนเก่าๆ และ ตู้พลาสติก วางอยู่ภายในห้องเท่านั้น
หากย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน จากที่คุณแม่เล่าให้ฟัง คุณริน เกิดมาด้วยร่างกายปกติ แต่ผ่านไปแค่ 1 เดือนพี่รินมีภาวะ น้ำท่วมปอด พิการทางสมอง และ มือ เท้า อ่อนแรง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบัน พี่ ริน ชายพิการ วัย 31 ปี ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองอะไรได้ เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ตัวเองจะอายุ 31 แล้วก็ตาม แต่ทางด้านสมอง เค้ามีสติปัญญาเพียงแค่เด็ก ทารก
คุณแม่พี่ ริน ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ทุกวันนี้แม่ต้องไปทำงาน ต่างจังหวัด ไปเช้า กลับ เย็น จึงต้องจ้างให้คนมาช่วยดูแลเดือนละ 700 บาท ส่วนห้องที่อยู่แม่ก็เช่าเดือนล่ะ 1,500 บาท ส่วนเวลานอน ตัวคุณแม่จะไปนอนอีกที่นึง แต่ทุกเย็น ทุกวัน ยังมาดูแล นั่งคุย นั่งเล่น กับคนเป็นลูก เพื่อในใจยังหวังให้ลูกคนนี้กลับมาหาเป็นเหมือนคนปกติ
คุณแม่ยังพูดอีกว่า ตอนนี้เรามีกัน 2 คน ตัวแม่เองก็อายุมากแล้ว แม่ยังไม่รู้เลยว่า แม่เองจะอยู่ดูแลเค้าได้นานขนาดไหน ถ้าวันนึงแม่ตายจากเค้าไปก่อน ใครจะมาดูแล กล่อมเค้านอน หากแม่เลือกได้ แม่อยากให้เค้า ไปก่อนแม่ แม่สงสารเค้า แม่ไม่อยากเห็นเค้าทรมานแบบนี้ หนูเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ไหม
หากเพื่อนๆพี่ต้องการช่วยเหลือคุณแม่และคุณรินสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีคุณแม่โดยตรง ที่บัญชี ธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส. ชื่อบัญชี นาง วิไล มีศรีสุข เพื่อนาย สุรินทร์ มีศรีสุข เลขที่บัญชี 013 672 231 307 บัญชีนี้เป็นของคุณแม่ที่เปิดเอาไว้คุณรินโดยตรง และคุณแม่เป็นผู้ดูแลบัญชีด้วยตัวเอง
นี่ล่ะความชีวิตจริงที่หดหู่ของผู้ที่เรียกว่า แม่ พยายามฟูกฟัก เลี้ยงดูผู้เป็นลูก ถึงแม้ตัวลูก จะพิการไม่สามารถรับรู้อะไร แต่หัวอกคนเป็นแม่ ก็เฝ้าเลี้ยงดูไม่ขาดสาย แต่ถ้าวันนึงถ้าแม่คนนี้ได้ตายจากลูกคนนี้ไปแล้วใครล่ะ จะมา รักลูกคนนี้ เท่าแม่ของเค้า หากใครที่มีลูกพิการ จะเข้าใจเลยว่า ทำไมผู้เป็นแม่ ที่ถึงพูดแบบนี้