นักโทษสหรัฐหลอดเลือดแตก ขณะถูกฉีดยาพิษประหาร

เหตุผิดปกตินี้เกิดขึ้นระหว่างการฉีดยาพิษลงโทษประหารนาย เคลย์ตัน ล็อกเก็ตต์ วัย 38 ปีที่เรือนจำรัฐโอกลาโฮมาในเมืองแมค-อเลสเตอร์ โดยเขาเสียชีวิตในอีก 43 นาทีต่อมาหลังได้รับการฉีดยาเข็มแรก ตามขั้นตอนการฉีดยาพิษจะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มแรกเป็นยานนอนหลับ ชื่อ มิดาโซแลม เพื่อทำให้นักโทษหมดสติ แต่ 7 นาทีหลังนายล็อกเก็ตต์ได้รับยาเข็มแรก ก็ยังมีสติอยู่ และอีกเกือบ 16 นาทีเขาขยับศีรษะและปาก และพยายามตะโกนเรียกเสียงดัง ทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องดึงม่านบังตาลงเพื่อไม่ให้สักขีพยานที่ร่วมสังเกตการณ์การประหารชีวิตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผุ้สื่อข่าวและทนายความของนายล็อกเก็ตต์ บอกว่า เห็นนายล็อกเก็ตต์บิดเกร็งและดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ข่าวระบุว่า การประหารนายล็อกเก็ตต์ต้องหยุดชะงักนาน 20 นาทีก่อนจะฉีดยาเข็มที่2 และ 3 จนครบ และเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย แต่โฆษกเรือนจำอธิบายว่านายล็อกเก็ตต์อาจมีภาวะหลอดเลือดแตก ทำให้ยาฉีดไม่ได้ผลอย่างที่ควรจำเป็นด้านนางแมรี ฟอลลิน ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมา สั่งให้สอบสวนขั้นตอนการประหารชีวิตทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว และสั่งเลื่อนการลงโทษประหารนายชาร์ลส์ วอร์เนอร์ นักโทษอีกรายที่เดิมจะถูกประหารในห้องเดียวกันในอีก 2 ชม.ต่อจากนายล็อกเก็ตต์ โดยให้เลื่อนเวลาออกไปอีก 14 วันระหว่างรอการตรวจสอบล็อกเก็ตต์ถูกศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตในคดีที่เขายิงสังหารสาววัย 19 ปีคนหนึ่งเมื่อปี 2542 ส่วนนายวอร์เนอร์ ต้องโทษคดีข่มขืนและฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 11 เดือนเมื่อปี 2550 การลงโทษประหารด้วยการฉีดยาพิษมีปัญหาตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อ บริษัทผู้ผลิตยาในยุโรปห้ามเรือนจำในสหรัฐนำยา เพนโทบาร์บิทอล ที่ผลิตโดยบริษัทเหล่านี้ไปใช้ลงโทษประหารชีวิต ทำให้ 32 รัฐในสหรัฐต้องหันไปใช้ยาตัวอื่นแทน และรัฐโอกลาโฮมาเลือกใช้มิดาโซแลม ที่จะทำให้หมดสติและหยุดหายใจ และใช้โปแตสเซียม คลอไดร์ เพื่อให้หัวใจหยุดเต้น  แต่กฎหมายของรัฐนี้ห้ามเปิดเผยชื่อบริษัทผู้ผลิตยาที่ใช้ลงโทษประหารชีวิต