25 มิถุนายน 2564 ที่ห้องโถงชั้น 1 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลขอนแก่น นางสุดลมโลย คำวิลัยศักดิ์ แม่ของนักร้องชื่อดัง โตโน่ ภาคิน ประธานโครงการหนึ่งคนว่ายหลายคนช่วย หรือ One Man and The Sea พร้อมด้วยนางสาวณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ดาราสาวชื่อดังพร้อมคุณแม่กชกร ได้มอบอุปกรณ์ปกป้องระบบหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์หรือที่เรียกว่า(PAPR Powered Air Purifying Respirator) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชุดพัดลมกรองอนุภาคระดับสูง จำนวน 5 ชุดให้กับโรงพยาบาลขอนแก่น มูลค่า 210,000 บาท เพื่อให้บุคคลากรทางการแพทย์ได้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยไว้รองรับ และช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มารับบริการ
นางสาวณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ กล่าวว่า การบริจาคเครื่องมือแพทย์ครั้งนี้เริ่มต้นจากโครงการหนึ่งคนว่ายหลายคนช่วย ได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธา ได้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิจำนวนมาก ทำให้โตโน่มีแนวคิดที่จะใช้เงินบริจาคให้คุ้มทุกบาททุกสตางค์ ไม่ว่าจะใช้ช่วยสัตว์ทะเลและเรื่องต่าง ๆ ให้กับหลายโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาล ที่ขาดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ จึงได้จัดซื้อ อุปกรณ์ชุดพัดลมกรองอนุภาคระดับสูง จำนวน 5 ชุดให้กับโรงพยาบาลขอนแก่น มูลค่า 210,000 บาท เพราะทางโตโน่ทราบว่าที่โรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดกำลังต้องการชุดพัดลมกรองอนุภาคระดับสูงมาใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ จึงได้นำเงินในมูลนิธิมาช่วยเหลือ เพราะเนื่องจากโรงพยาบาลขอนแก่น มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ารักษาตัวจำนวนมาก และชุดที่ใช้ก็มีความอึดอัด ทำให้การทำงานไม่คล่องตัว จึงทำให้มีการมามอบสิ่งของในวันนี้ ส่วนเจ้าตัวโตโน่ ภาคิน ไม่ได้เดินทางมาด้วยแต่ก็ได้ส่งกำลังใจมาถึงเจ้าหน้าที่บุคคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน และให้กำลังใจผ่าน IG อยู่ตลอด
ด้านแพทย์หญิงนาตยา มิลส์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลขอนแก่นขอขอบคุณ ครอบครัวของโตโน่ ภาคิน และน้องณิชา ที่ได้นำสิ่งของมาบริจาคให้กับทางโรงพยาบาล เพราะบุคลากรทางการแพทย์ ต้องการได้ชุดที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดีมีคุณภาพ เพราะโรงพยาบาลขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่มีการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก แม้ว่าโตโน่จะไม่ได้มาด้วยตัวเอง เพราะติดเก็บตัวกับทางสโมสราราชบุรีมิตรภาพ ทีมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนความสำคัญของชุด PAPR เป็นชุดที่มีระบบคุณภาพสูง เมื่อเจ้าหน้าที่สวมใส่จะทำให้หายใจคล่องตัวกว่าชุด PPE ธรรมดา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอึดอัดและหายใจลำบาก เพราะการสวมใส่ชุดเจ้าหน้าที่ต้องใส่นานถึง 8 ชั่วโมง และจะต้องสัมผัสกับผู้ป่วย แต่เมื่อได้ได้ชุด PAPR ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะออกแบบมาดีมีการระบายอากาศอยู่ภายในชุดด้วย