.
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 นายภควัต ขันธหิรัญ นายอำเภอแม่ริมเปิดเผยว่า หลังจากที่ทาจังหวัดเชียงใหม่มีหนังสือแจ้งให้ทั้ง 25อำเภอจัดทำแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยติดบ้าน และผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชานุเคราะห์และพระบรมวงศานุวงศ์เข้ารับการฉีดวัคชีนป้องกันไว้รัสโควิด 19 ในเดือนกรกฎาคม 2564โดยให้อำเภอบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในการพบปะกลุ่มเป้าหมาย ญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยทุกรายเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีนและลงทะเบียนรับการฉีดเพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ อำเภอแม่ริมได้ประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวการกับให้บริการฉีดวัคซีนในพื้นที่มีแนวคิดจะนำวัคซีนไปหาผู้ป่วยกลุ่มนี้ ซึ่งในพื้นที่มีอยู่ประมาณ 20 คนเพราะจะเป็นการสะดวกมากกว่าที่จะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกมาเพื่อรับวัคซีนซึ่งได้ปรึกษากับทางอปท.ในพื้นที่ หากได้รับวัคซีนมาจะนำทีมแพทย์พยาบาลไปฉีดให้กับกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยติดบ้าน โดยทางอปท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
สำหรับประชากรในพื้นที่อำเภอแม่ริมมีอยู่ประมาณ 96,000 คน เป็นกลุ่มอายุ18ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนประมาณ 62,000 คนขณะนี้มีการลงทะเบียนขอรับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 50 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่อยู่บนดอยสูงการเดินทางเข้ามารับวัคซีนค่อนข้างลำบากมีอยู่ประมาณ 1,000-2,000 คนจึงมีแนวคิดจะนำวัคซีนออกไปให้บริการกับประชาชนทั่วไปในพื้นที่ที่เดินทางยากลำบากบนดอยสูงเพื่อลดภาระการเดินทางของประชาชน และเพื่อให้เกิดการกระจายวัคซีนไปในทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม
ขณะเดียวกัน ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอแม่ริม ได้เตรียมสำรวจกลุ่มเด็กอายุ12-17 ปี หากรัฐบาลอนุญาตให้จัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ได้ทางท้องถิ่นพร้อมที่จัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดซื้อวัคซีนนำมาฉีดให้กับเด็กกลุ่มนี้ซึ่งมีอยู่ประมาณ 12,000 คน จากจำนวนประชากร 96,000 คน ในพื้นที่