เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่บริเวณห้องสืบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพรม สว.สส.ฯ, และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายรัฐธรรมนูญ มีกลิ่น อายุ 21 ปี ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมด้วยของกลางเป็นเสื้อผ้า ที่ใช้ในวันก่อเหตุ นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มี พระบัญดิษ สายรัตน์ อายุ 46 ปี พระธุดงค์ เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ว่าขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ที่พักวินรถจักรยานยนต์ บริเวณริมถนนสุขุมวิท ปากทางลงโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย เข้ามาก่อเหตุลักขโมยโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับข่มขู่ให้บอกรหัสผ่านแอปธนาคารด้วย ก่อนที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์ไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบัญชีของ พระบัญดิษ สายรัตน์ ผู้เสียหายแล้วพบว่า เดิมทีบัญชีดังกล่าว มีเงินอยู่ทั้งหมด 360,000 บาท ซึ่งได้ถูกคนร้ายนำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ไปตระเวนกดตามตู้เอทีเอ็ม 9 ครั้ง ๆ ละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 270,000 บาท โดยใช้วิธีกดเงินแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายรัฐธรรมนูญ หรือบาส มีกลิ่น อายุ 21 ปี และภายหลังจากที่ก่อเหตุมา ได้นำเงินไปเปิดห้องพักคอนโดหรู แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา ก่อนที่ล่าสุดจะเดินทางไปเที่ยวที่ เกาะล้าน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมในทันที ต่อมาได้นำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดแรก ที่ก่อเหตุ ส่วนจุดที่ 2 เป็นตู้เอทีเอ็ม บริเวณหน้าตลาดสดศรีราชา กดเงินไปทั้งหมด 2 ครั้งๆ ละ 3 หมื่นบาท จุดที่ 3 ตู้เอทีเอ็ม หน้าเจซีมาร์ท ศรีราชานคร กดทั้งหมด 3 ครั้ง ๆละ 3 หมื่นบาท และจุดสุดท้ายคือตู้เอทีเอ็มหน้าตลาดวรกิจ เก้ากิโล กดทั้งหมด 4 ครั้ง ๆ ละ 3 หมื่นบาท จนกระทั่งนำซิมมาหักทำลายทิ้ง
ด้านนายรัฐธรรมนูญ หรือบาส มีกลิ่น อายุ 21 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง เนื่องจากได้วิชามาจากคนในคุก ซึ่งจะเลือกเฉพาะพระธุดงค์ หรือคนไร้บ้าน ที่เดินตามถนน เพราะส่วนใหญ่จะไม่แจ้งความ หลังจากที่ได้เงินมาก็นำเงินไปใช้ชีวิตหรูหรา ก่อนที่จะไปเที่ยวเกาะล้าน จนกระทั่งมาถูกจับได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ พบว่าเคยติดคุกในคดีวิ่งราวทรัพย์ และได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาก่อเหตุซ้ำ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐาน ส่งพนักงานสอบสวนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป