เพนกวิน-รุ้ง-ไผ่ พร้อมนำม็อบ 3 นิ้ว 24 มิ.ย. ระบุยังยึดจุดยืน นายกฯลาออก-แก้ไขรธน.-ปฏิรูปสถาบัน

วันนี้(22มิ.ย.64)ที่ศาลอาญา รัชดาฯ ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีพนักงานอัยการคดีอาญา เป็นโจทก์ฟ้องแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร รวม 22 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 116 รวมทั้งความผิดอื่น ๆ กรณีชุมนุมวันที่ 19-20 กันยายน 2563 ทวงคืนอำนาจ-ปักหมุดราษฎรอาทิ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง พร้อมด้วยแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร รวม 22 คน เช่น นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นายไชยอมร แก้ววิบูรย์พันธ์ หรือ แอมมี่ และนายอานนท์ นำภา เป็นต้น

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกของการนัดสืบพยานในคดีชุมนุม 19-20 กันยายนที่ผ่านมา เดิมทีนัดสืบพยานในคดีนี้ต้องมีมาตั้งแต่พฤษภาคมแล้ว แต่ต้องเลื่อนมาเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับจำเลยบางคนมีอาการเจ็บป่วย ซึ่งการพิจารณาครั้งก่อนหน้ามีจำเลยบางคนที่ตัดสินใจถอนทนายความทำให้วันนี้เกิดปัญหาเล็กน้อย ที่จำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ อย่างไรก็ตามจำเลยทุกคนได้รับหมายเรียกสืบพยานในวันนี้ทั้งหมด แต่มีบางส่วนติดธุระก็จะให้ครอบครัวมาดำเนินการขอเลื่อน

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทนายความมีความกังวลหรือไม่ว่าจะมีจำเลยบางส่วนเดินทางไปร่วมกิจกรรมในวันที่ 24 มิ.ย. นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เพราะทนายเองมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลจำเลยให้เป็นไปตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญ การร่วมกิจกรรมชุมนุมก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขาเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ทางศาลมีการพูดคุยกับทนายตลอดเวลาที่ผ่านมา ให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดเงื่อนไขที่ศาลได้กำหนดไว้แต่สุดท้ายนี้ศาลก็ไม่อาจล่วงเกินตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ได้ยกตัวอย่างหนึ่งในเงื่อนไข ที่ศาลกำหนดว่าไม่ให้จำเลยกระทำการใดๆ ที่เป็นอันเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาการต่อสู้ของกลุ่มแกนนำ ก็มีการยืนยันมาตลอดว่าไม่เคยกระทำการใดๆที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน

อย่างไรก็ตามสำหรับวันนี้ทนายเองไม่กังวลในส่วนของการพิจารณาคดี เพียงแต่กังวลในเรื่องการจำกัดคนให้เฉพาะคนในครอบครัวเข้าฟังการนัดสืบพยาน ในห้องพิจารณาคดี ตนไม่รู้ว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของใคร เพราะการเข้าฟังการพิจารณาคดีใดๆต้องเป็นการพิจารณาแบบเปิด ต้องไม่จำกัดสิทธิ์ของผู้ที่จะเดินทางเข้าไปฟัง เป็นหนึ่งในสิทธิ์ของจำเลยในการต่อสู้คดี ที่จะสามารถมีประจักษ์พยานในการรู้เห็นการพิจารณาคดีได้

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามจะเดินทางมายื่นขอคัดค้านการประกันตัวของนายสมยศ จากกรณีที้นายสมยศเดินทางมา ให้กำลังใจแกนนำราษฎรในการพิจารณาคดีครั้งที่ผ่านๆมา

นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน เปิดเผยถึง การเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร ในวันที่ 24 มิ.ย.ว่า การที่ประชาชนหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า การคงอยู่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เป็นข้อดี ฉะนั้นแล้วถ้าพี่น้องประชาชนเล็งเห็นว่าการมีอยู่ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นก็ขอให้ออกมาร่วม ชุมนุม ส่วนในกลุ่มราษฎรยังคงยืนยันหลักการเดิม 3 ข้อเรียกร้อง ที่กลุ่ม "คณะราษฎร"เคยประกาศว่าจะเป็นจุดยืน ได้แก่ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2. รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ตนมองว่า ไม่ละเมิดออกเงื่อนไขที่ศาลกำหนด เพราะที่ผ่านมา การขอให้ปฏิรูปสถาบัน เป็นการขอให้พัฒนาในทางที่ดีขึ้นไม่ได้ประสงค์ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย ส่วนการออกมาชุมนุมก็ไม่เคยก่อความวุ่นวายใดๆ ส่วนกรณีที่ตำรวจนครบาล ออกมา แถลงว่า จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ให้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ในส่วนของการแถลงว่าดำเนินคดีไปแล้วมากกว่า 150 คดีในการทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น เพนกวินกล่าวว่า ถ้าตำรวจคิดว่าทำถูกก็เอามาอีก 150 คดี

ด้านนางสาวปนัสยา กล่าวว่า ขอให้ศาลทำให้เชื่อมั่นว่ากระบวนการนี้ยังคงยุติธรรม ส่วนการนัดสืบพยานในวันนี้ไม่มีข้อกังวลใดๆ

ขณะที่นายจตุภัทร บุญภัทรรักษาหรือไผ่ ดาวดิน กล่าวถึงการเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้น ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ว่า กิจกรรมที่กำลังจะจัดชุมนุมถือว่าเป็นการรวมกลุ่มทั้งหมดของคณะราษฎร ซึ่งจะมีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงช่วงกลางคืน การเรียกร้องที่สำคัญ ที่จะต้องพูดถึงคือเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งที่ผ่านมารัฐสภาปัดตกรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้านมาเสมอและรับรองแค่ฉบับที่ฝั่งรัฐบาลยื่น ตนมองว่ารัฐธรรมนูญ เป็นหลักแรกที่สำคัญและจะต้องมาจากประชาชน ความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนตัดสินใจออกมาเคลื่อนไหวและแสดงจุดยืน
อย่างไรก็ตาม แนวทางการจัดความเรียบร้อยห้องพิจารณาคดีของศาลอาญา วันนี้ (22มิ.ย.) ซึ่งใช้ห้องพิจารณาคดี 704 เป็นห้องหลักในการดำเนินกระบวนพิจารณา  เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ศาลจึงได้จัดห้องพิจารณาให้เหมาะสมและเว้นระยะห่าง (Social Distancing) โดยจัดที่สำหรับจำเลยทั้ง 22 คน และญาติของจำเลยคนละ 2 คน ตัวแทนสถานทูตต่างๆ 3 คน ตัวแทนไอลอว์ (iLaw) 2 คน ตัวแทนนักสิทธิมนุษยชน 2 คน สื่อต่างๆ 5 คน และตัวแทนประชาชน 5 คน รวมแล้ว 85 คน เมื่อรวมกับพนักงานอัยการ และทนายความของจำเลยทั้ง 22 คน จะมีคนเข้าไปในบัลลังก์ดังกล่าว กว่า 100 คนและเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในห้องพิจารณาและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่สนใจเข้ารับฟังการพิจารณาคดี ศาลอาญาจึงได้จัดระบบ Video Conference ไปยังห้องเวรชี้ 2 สำหรับบุคคลที่ประสงค์จะเข้าฟังกระบวนพิจารณาเพิ่มเติมซึ่ง สามารถเข้าได้ 30-50 คน