จีนนำลิ่วฉีดวัคซีนโควิดทะลุพันล้านโดส

คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ จีนแถลงเมื่ออาทิตย์ว่า จนถึงเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. จีนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนได้มากถึง 1,010 ล้านโดส และตัวเลขนี้คิดเป็นเกือบ 3 เท่าของปริมาณการฉีดวัคซีนในสหรัฐ หรือ เกือบ 40% ของปริมาณการฉีด 2,500 ล้านโดสทั่วโลก โดยอ้างอิงข้อมูลจากเวบไซต์ Our World in Data
จีนเป็นหนึ่งในชาติแรกๆที่เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชากรเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยอนุญาตให้ฉีดวัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินแก่บุคลากรด่านหน้า พนักงานในอุตสาหกรรมการบริการ และพนักงานในระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้รับการติดเชื้อผ่านการสัมผัส  
หลังจากนั้นจีนเร่งฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วประเทศตั้งแต่เดือน มี.ค. และฉีดได้ครบ 100 ล้านโดสเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ตามด้วย 500 ล้านโดสในวันที่ 23 พ.ค. และ 900 ล้านโดสเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.และใช้เวลาอีกเพียง 5 วันก็ทะลุ 1,000 ล้านโดส
แม้ในช่วงแรกจะมีอัตราการฉีดแก่ประชานทั่วไปช้ามากเพราะคนยังลังเลที่จะฉีดเนื่องจากรัฐบาลควบคุมการระบาดได้ดี แต่อัตราการฉีดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งมีการฉีดมากกว่า 10 ล้านโดสต่อวัน และบางวันสูงถึงกว่า 20 ล้านโดส หลังพบการระบาดไม่คาดฝันอย่างต่อเนื่องจากมณฑลเหลียวหนิง มณฑลอานฮุย และมณฑลกวางตุ้ง และขณะนี้จีนกำลังทยอยฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 3-17 ปี
ขณะที่ปริมาณการฉีดวัคซีนต่อประชากร 100 คน จีนไม่ได้อยู่ในอันดับแรกของโลก โดยจากข้อมูลในเวบไซต์ Our World in Data จนถึงเมื่อวันศุกร์พบว่าจีนมีอัตราการฉีดวัคซีน 68.8 โดสต่อประชากร 100 คน อยู่ในอันดับ 7 ของโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับอัตราสูงสุดของโลกที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ฉีดได้ 144.57 โดสต่อประชากร 100 คน ส่วนสหรัฐฯฉีดได้ 94.5 ต่อประชากร 100 คน 
แต่คาดว่าจีนจะมีอัตราการฉีดเร็วขึ้นได้ โดยจีนมีอัตราการฉีดต่อวันสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก คือ 1.26 โดสต่อประชากร 100 คน รองจากเกาหลีใต้ฉีดได้ 1.37 โดสต่อ 100 คนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.
จีนตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนครบโดสรวม 70% จากทั้งหมด 1,400 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันได้