21 มิถุนายน 2564 พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 3 ดำเนินการเป็นภาคแรกของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาและดำเนินงานชุมชนยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร และการบำบัดผู้ติดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติด ให้ลด ละ และเลิกยาเสพติดได้ โดยใช้กระบวนการบำบัดโดยชุมชนแบบ CBTx (community based treatment *extreme) และมีการสร้างระบบการบริหารให้ผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็งในการติดตามผู้ที่เลิกใช้ยาเสพติด และการสร้างภาคีเครือข่ายในชุมชน โดยมีตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน เพื่อส่งมอบภารกิจการดูแลชุมชนให้มั่นคงปราศจากยาเสพติด ด้วยเหตุที่พบว่า ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดที่ผ่านมา แม้จะกวาดล้างจับกุมอย่างเข้มข้นมาตลอด แต่ปริมาณยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติดกลับเพิ่มมากขึ้น การป้องกันไม่ให้มีการค้า คือการช่วยเหลือผู้เสพให้เลิกใช้ยาเสพติด เมื่อเลิกเสพ ก็เลิกซื้อ เมื่อ ไม่มีผู้ซื้อก็จะไม่มีผู้ขาย บำบัดดีกว่าจับกุม
พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวอีกว่า โครงการชุมชนยั่งยืนนี้ มีการบูรณการการทำงานทุกภาคส่วน ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน และประชาชน ร่วมกันค้นหาผู้เสพยาเสพติดในชุมชน โดยลงสำรวจ ตรวจทุกคนทุกครัวเรือน ( X-ray 100% ) เมื่อได้ผู้เสพออกมาแล้ว ตำรวจ สาธารณสุข มหาดไทย และประชาชนในชุมชน จะร่วมกันบำบัดในชุมชนนั้นเลย โดยมีคำสั่งจากนายอำเภอ ให้เปิด CBTx ในชุมชน โดยมีการบำบัดทั้งทางการแพทย์ ทางจิตวิทยา ศาสนาบำบัด วินัยบำบัด จิตอาสาบำบัด อาชีวบำบัด และยังมีครอบครัวพร้อมพลังชุมชน ให้กำลังใจและติดตามพฤติกรรมผู้บำบัดอย่างใกล้ชิด มีการให้โอกาสทางการศึกษา การฝึกอาชีพ การหางาน เสริมสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เลิกยาเสพติด ได้มีชีวิตและสภาพครอบครัวที่ดีขึ้น ไม่กลับไปสู่วังวนยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด ก่อนดำเนินโครงการได้มีการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบให้แก่ตัวแทนจากทุกสถานีตำรวจและมีผู้แทนสำนักงาน ปปส. ฝ่ายปกครอง สาธารณสุขร่วมสัมมนาด้วย
จากนั้น ตร.ภ.3 ได้เริ่มดำเนินโครงการฯ ด้วยการเข้าประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ สาธารณสุข และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน สืบสภาพชุมชน คัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมายที่มีปัญหาการแพร่ระบาดสูงสุด ซึ่งโครงการนี้ขับเคลื่อนพร้อมกันทั้ง 236 สถานี 8 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 มีประชากรในชุมชนเป้าหมายรวม รวม 165,065 คน ขณะนี้ ค้นหาผู้เสพ / ผู้ติดยาเสพติดได้ ได้ 3,724 คน และอยู่ในระหว่าง CBTx ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการได้รับผลตอบรับดีจากคนในชุมชนและพร้อมที่จะต่อยอดดำเนินโครงการต่อไป
"จากการประเมินผลคาดว่า จะมีผู้เลิกใช้ยาเสพติดถึงประมาณร้อยละ 80 หากเลิกได้ 3,000 คน ใน 1 ปีจะลดกำลังซื้อไป 1,000,000 เม็ด คิดเป็นเงินที่ไม่ต้องสูญไปให้ผู้ค้า 100 ล้านบาท หากทำได้ทุกหมู่บ้านที่เหลืออีก 16,632 หมู่บ้าน จะเป็นเงินถึง 7,000 ล้านบาท อันจะนำมาซึ่งการลดปัญหายาเสพติดในครอบครัว สังคมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน ภัยอาชญากรรมอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่มีต้นตอมาจากยาเสพติดจะไม่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน" พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ ฯ กล่าว