17 มิถุนายน 2564 เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.สอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์ในป่าท้ายหมู่บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ต.นาข่า จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นป่าชุมชนต้นไม้ขึ้นทึบสูงท่วมศีรษะเดินเข้าไปประมาณ 100 เมตรพบศพเหลือแต่โครงกระดูก ทราบชื่อภายหลังว่านายธงชัย เสวตวงษ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 8 บ้านดอนแตง ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพนอนหงายอยู่ใกล้กับจอมปลวกสูงประมาณ 1 เมตร สวมเสื้อเเจ็คเก็ตสีดำ ผ้าขาวม้าสีฟ้าดำขาว เจ้าหน้าที่พบแหวนสแตนเลส 1 วงอยู่ที่นิ้วก้อยมือข้างซ้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรแพทย์ระบุเสียชีวิตจากการอดอาหารและน้ำ มาประมาณ 3 เดือน จากนั้นนางหนูกุล เสวตวงษ์ อายุ 64 ปี ได้เดินทางมาดูยืนยันว่าโครงกระดูกเป็นศพของสามี ก่อนที่เด็ดยอดผักบุ้งมาแทนดอกไม้เทียน 5 คู่ ทำขันธ์ห้า เพื่อบอกกล่าวดวงวิญญาณผู้ตายให้กลับบ้าน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา และฌาปนกิจ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้พร้อมกับพูดปนเสียงสะอื้นน้ำตาว่า"เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้เป็นผัวเมียกันอีกเด้อตู้เด้อ"
จากการสอบสวนนายบุเรงนอง ใจใส อายุ 50 ปี ญาติผู้ตายและเป็นผู้มาพบศพ ให้การว่า หลังทราบว่าผู้ตายหายออกจากบ้านก็ได้ไปช่วยตามหาประมาณ 1 สัปดาห์ก็ไม่พบจึงหยุดตามหา เมื่อคืนได้มีฝนตกลงมา ทำให้วันนี้ตนจึงออกมาเก็บเห็ดที่ป่าชุมชน ตนมาเก็บเป็นประจำทุกปีเดินหาเห็ดไปเรื่อยๆ กระทั่งมาพบผ้าขาวม้ากองอยู่บนโครงกระดูก ตนไม่ได้ตกใจ เพราะจำได้ว่าเป็นผ้าขาวม้าที่นายธงชัยใส่ประจำ และน่าจะเป็นศพนายธงชัยที่เหลือแต่โครงกระดูกแน่นอน จึงได้ใช้มีดตัดกิ่งไม้เพื่อเปิดทางเดินเข้าไปให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย แล้วเดินออกไปบอกภรรยาผู้ตายมาพบโครงกระดูกคาดว่าจะเป็นนายธงชัย และพาภรรยาผู้ตายเข้ามาดู พร้อมกับแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ด้านนางหนูกุล เสวตวงษ์ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ตนกับผู้ตายอยู่ด้วยกันมา 30 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ตนเป็นแม่ครัวประจำโรงเรียน ส่วนผู้ตายทำงานก่อสร้างเป็นคนขยันทำมาหากิน แต่เมื่อ 4 ปีก่อนผู้ตายป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน หลงลืม และได้หายออกจากบ้านประมาณ 3 เดือน ตนได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตนและญาติพี่น้องได้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ และตนยังมีความหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่ แต่คงเดินไปไกล เดินไปเรื่อยๆ จำทางกลับบ้านไม่ได้ แต่นิสัยสามีเป็นคนไม่ขอข้าวขอน้ำกินของใครกิน
นางหนูกุล เล่าต่อว่า ก่อนมาพบศพ เมื่อ 2 วันก่อนตนฝันว่าผู้ตายหิวข้าวมาขอกินข้าว กินเสร็จแล้วตนได้เดินมาส่งผู้ตายที่บ้าน เมื่อเดินมาถึงที่พบศพซึ่งเป็นจอมปลวกใหญ่ ผู้ตายได้วิ่งหนีหายเข้าไปในจอมพวก ตนก็วิ่งตามมาแต่ก็ไม่พบ และเมื่อคืนนี้ตนฝันว่า ขณะผู้ตายนอนหลับ ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่จะเอาปืนมายิง ตนได้วิ่งเข้าไปกอดผู้ตายไว้ ทำให้ปืนยิงไม่ออกแต่พอตนคลายอ้อมกอดออกก็พบว่าตนกอดโครงกระดูก คิดว่าผู้ตายมาเข้าฝันเพื่อบอกว่าศพอยู่ที่นี่ ตนมั่นใจว่าเป็นโครงกระดูกสามี เพราะจำผ้าขาวม้า และแหวนสแตนเลสที่นิ้วนางได้แม่นยำ
น.ส.แววดาว นามบุตร ผญบ.บ้านเหล่าศรีจารย์ ได้บอกว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่านายธงชัย มีอาการหลงลืม สติไม่ดี หายออกจากบ้านตอนกลางคืน จึงได้ระดมชาวบ้านกู้ภัย เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ซึ่งออกติดตามนานกว่า 2 สัปดาห์ แม้แต่ป่าแห่งนี้ชาวบ้านก็เข้ามาหาและใช้โดรนบินค้นหาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ยกเลิกในการค้นหา กระทั่งมีชาวบ้านมาเก็บเห็ดในป่านี้ ซึ่งชาวบ้านมักเข้ามาหาเห็ดประจำ มาพบศพเหลือแต่โครงกระดูก โดยญาติจำผ้าขาวม้าที่ผู้ตายสวมใส่ได้ จึงมาแจ้งภรรยาและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดู ซึ่งภรรยายืนยันว่าเป็นโครงกระดูกสามี เพราะจำผ้าขาวม้าที่ซื้อให้สามี และแหวนสแตนเลส ที่ผู้ตายสวมใส่ประจำได้
พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.สอบสวน สภ.นาข่า เปิดเผยว่า มีการแจ้งคนหายเมื่อพบศพญาติจำตำหนิรูปพรรณ เสื้อผ้า คนหายได้ และพบศพไม่ห่างจากบ้านมากประมาณ 500 เมตร ญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป