15 มิถุนายน 2564 กลุ่มพิทักษ์พยานระดมทุนซื้อกล้องวงจรปิดและกล้องแอคชั่นแคม โดยจะติดให้พยานฝั่งแม่น้องชมพู่ เพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาก่อกวนและเพื่อความปลอดภัยกับเหล่าพยานทั้งหมด10คน พร้อมกับจะนำติดที่วัดถ้ำภูผาแอก และวัดภูหลวง ใช้งบทั้งหมดจากการระดุมทุนกว่า140,000 บาท โดยกลุ่มพยานพร้อมชาวบ้าน บ้านกกกอกหมู่2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดตามบ้านพยานในคดีน้องชมพู่จำนวน10หลัง แบ่งเป็นบ้านพยานที่ บ้านกกกอกประมาณ9หลัง และที่บ้านพยานที่ บ้านกกตูม ต.กกตูม อ.ดงหลวง อีก1หลัง ซึ่งการติดกล้องในครั้งนี้มีการสั่งมาทั้งหมด43ตัวเป็นกล้อง IP camara ดูแบบออนไลน์ได้และดูแบบออฟไลน์ได้ในกรณีที่ไม่มีเน็ตสามารถนำมือถือไปเชื่อมต่อกับกล้องได้ส่วนโครงการต่อไปก็จะมีกล้องแอคชั่นแคมประมาณ10ตัวเพื่อเอาไปไว้ติดตัวกรณีที่เดินทางไปทำไร่ทำสวนเพื่อความปลอดภัย
นายปรีชาลักษณ์ นิลสิงขร อายุ43ปี ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์พยานคดีน้องชมพู่ บอกว่า โครงการนี้เกิดจากการที่มีพยานมาขอความช่วยเหลือว่าตอนนี้เกรงเรื่องความปลอดภัย อยากได้กล้องวงจรปิดมาติดไว้ที่บ้านพอจะมีทางช่วยเหลือบ้างไหม ตนจึงได้นำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับเหล่าเพื่อนๆที่เป็นยูทูบเบอร์และเอฟชีช่องต่างๆจนนำมาซึ่งการระดมทุนเพื่อที่จะนำไปซื้อกล้องวงจรปิดและกล้องแอคชั่นแคม ส่วนที่เงินที่เหลือก็จะนำไปซื้อพวกไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพื่อนำไปติดตั้งบริเวณที่ไฟฟ้าส่องสว่างไม่ถึงตอนนี้มีกล้องทั้งหมด43ตัวและกล้องแอคชั่นแคมจำนวน10ตัว
นางสาวชนาภา เชื้อคมตา อายุ41ปี หนึ่งในพยานคดีน้องชมพู่ บอกว่า ตลอดเวลา1ปีกว่าก็เกิดการระแวงมาตลอดเลย ตัดสินใจปรึกษากับหลายๆคนในหมู่บ้านก็เลยเป็นที่มาที่ไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มพิทักษ์พยาน จนนำมาสู่การระดมทุนซื้อกล้องวงจรปิดในครั้งนี้ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะอย่างน้อยไม่อยู่บ้านก็มีกล้องวงจรปิดเป็นผู้สอดส่องดูแลแทนและจะได้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้