15 มิถุนายน 2564 ญาติพี่น้องของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้พิจารณาลงโทษสถานหนัก หรือหากเป็นไปได้ก็อยากให้ประหารชีวิต นายไพฑูรย์ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าเขยของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย หลังจาก ด.ญ.เอ ได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดว่าถูกลุงเขย บังคับล่วงละเมิดทางเพศ มานานเกือบ 2 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 แต่ไม่กล้านำเรื่องไปบอกใครเพราะกลัวถูกทำร้ายเนื่องจากถูกลุงเขยข่มขู่เอาไว้ หลังจากผู้เป็นแม่ทราบเรื่อง ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงได้โทรศัพท์ไปบอกญาติที่บ้าน ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับลุงเขย เพราะแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดประกอบกับสถานการณ์โควิดจึงไม่สะดวกเดินทางมาแจ้งความด้วยตัวเอง
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ลุงแท้ๆ ของ ด.ญ.เอ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุให้ดำเนินคดีกับนายไพฑูรย์ ลุงเขย จากนั้น ร.ต.อ ฉลาด สุขวิเศษ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หินเหล็กไฟ จึงได้เชิญตัว นายไฟทูรย์ ลุงเขยที่ถูกกล่าวหา มาสอบสวน เบื้องต้นลุงเขย ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ แต่ยอมรับว่าได้ใช้มือลูบคลำของสงวน ด.ญ.เอ จริง ซึ่งขัดแย้งกับที่เด็กให้ข้อมูลว่าได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 และถูกกระทำเรื่อยมาจนจำนวนครั้งไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะกระทำภายในบ้านและเป็นตอนกลางวัน ทุกครั้งเด็กพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็สู้แรงไม่ไหว อีกทั้งลุงเขยก็ข่มขู่เอาไว้จึงทำให้เด็กหวาดกลัวไม่กล้าร้อง
หลังจากสอบปากคำนายไพฑูรย์ ลุงเขย พนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหา "กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี" และได้นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้มีการประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่วนจะมีการยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลฯ
นางหอม อายุ 53 ปี ป้าอีกคนของ ด.ญ.เอ เล่าว่า หลังจากแม่ของ ด.ญ.เอ ไปทำงานต่างจังหวัด ก็ฝากให้นางเสวย (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวของตัวเอง ซึ่งก็เป็นป้าแท้ๆ ของ ด.ญ.เอ ช่วยดูแลลูกสาวให้ด้วย ซึ่งนางเสวย และนายไพฑูรย์ ป้าและลุงเขยก็ดูแล ด.ญ.เอ มาเรื่อยทุกคนก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น กระทั่งหลานโทรไปบอกแม่จึงได้รู้ความจริง ญาติพี่น้องก็ต่างพากันช็อกและตกใจมาก ก็อยากให้กฎหมายลงโทษสถานหนัก หากเป็นไปได้ก็อยากให้ประหารชีวิตไปเลย เพราะเป็นการสร้างตราบาปทั้งกายและจิตใจให้กับเด็ก และที่เสียใจคือป้าแท้ๆ ของน้องซึ่งเป็นเมียของผู้ก่อเหตุ ก็ยังเข้าข้างสามีออกมารับแทนว่าไม่ได้กระทำทั้งที่ได้พาเด็กไปตรวจที่ รพ.แล้ว หมอระบุว่าอวัยวะเพศของน้องเปิดกว้างก็เชื่อว่าหลานถูกล่วงละเมิดแน่นอน ตอนนี้ห้วยสภาพจิตใจหลานสาวมากไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังทราบเรื่องก็ได้นำตัวหลานสาวมาไว้ที่บ้านของตายายอีกคน
ด้านนายแก่ม เพื่อนบ้าน บอกว่า หลังทราบเรื่องก็เสียใจและสงสารน้อง ไม่ควรจะมาเจอเรื่องแบบนี้แล้วยิ่งคนทำเป็นคนใกล้ชิดและไว้ใจ ไม่คิดว่าจะทำได้ลงคอ ที่ผ่านมาก็เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะมาเกิดกับลูกหลานในหมู่บ้านของตัวเอง แม้ตนจะไม่ได้เป็นญาติแต่ก็รู้สึกรับไม่ได้เพราะตัวเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด