วานนี้(14 มิ.ย.64) พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ในห้วงประเทศมาเลเซียล็อกดาวน์ ครบ 14 วัน ณ ที่บังคับการทางยุทธวิธี หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ( หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ) หมู่8 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส โดยได้รับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติ ในการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 1 - 14 มิถุนายน 2564 มีสถิติการข้ามแดนถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย รวม 58 คน แยกเป็นประเภท การข้ามแดนโดยถูกกฎหมาย ผ่านด่านศุลกากรสุไหงโกลก จำนวน 11 คน และการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ที่ลักลอบผ่านแดนช่องทางธรรมชาติ จำนวน 47 คน ทั้งทางด้าน อ.ตากใบ ที่ตรวจพบ ได้แก่ ด่านโคกมะเฟือง และทางด้าน อ.สุไหงโกลก ที่ตรวจพบได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และสถานีรถไฟสุไหงโกลก
จากกรณีดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ข้ามแดนโดยถูกกฎหมาย จะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองจากทีมแพทย์โรงพยาบาลสุไหงโกลก และทีมสาธารณสุขอำเภอสุไหงโกลก จากนั้น ส่งต่อศูนย์ Local quarantine ตามภูมิลำเนาจังหวัด ส่วนผู้ที่ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จะควบคุมตัว โดยประสานรถจาก ศปก.อ.สุไหงโกลก รับผู้ลักลอบผ่านแดน ไปส่ง ที่ด่านศุลกากรสุไหงโกลก เพื่อทำการคัดกรองโรค และเปรียบเทียบปรับ จากนั้นส่งต่อศูนย์ Local quarantine ตามภูมิลำเนาจังหวัด (กรณีภูมิลำเนาอยู่นอก 3 จชต. ทำการกักตัว ณ Local Quarantien จ.นราธิวาส แต่ในกรณีที่เป็น แรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย จะประสานรถจาก ศปก.อ.สุไหงโกลก รับตัวไปส่งที่ Local Quarantien สนามกีฬามหาราช ดำเนินการกักตัวให้ครบ 14 วัน และให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.นราธิวาส ดำเนินการต่อไป
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าสาธารณสุขเตรียมความพร้อม กรณีมาเลเซียปิดเมืองระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มอีกครั้งใน 4 สัปดาห์ โดยได้จัดชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ (ชป.จรยุทธ์) ทำการลาดตระเวนป้องกันการลักลอบข้ามแดน บริเวณตามแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ พร้อมทั้งได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) เป็นชุดสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เข้าพบปะทำการประชาสัมพันธ์ และสร้างความตระหนักรู้ การลักลอบผ่านแดนผิดกฎหมายนำมาซึ่งมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษ อากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ทำการบิน ลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนขอความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ช่วยเป็นหูเป็นตา มีการตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง และคอยแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่กำลังระบาดอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านกลับเข้ามาในประเทศไทย