14 มิถุนายน 2564ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจาก ชาวบ้าน ต.บ้านโพนงาม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ว่า มีแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงออกอาละวาด หลอกคนในหมู่บ้านพร้อมกับพระในสำนักสงฆ์ ต.โพนงาม อ.คำชะอี และต.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยหลอกให้เปิดฉลาก ถ้าเปิดเจอของรางวัลห้ามคืนต้องซื้อเท่านั้น แถมซื้อในราคาที่เกินจริงมาก โดยผู้ตกเป็นเหยื่อ คือพระ2รูป จับฉลากแลกของรางวัลได้ สบู่ 2 ก้อน และนาฬิกา 1 เรือน แต่ถูกบังคับให้จ่ายเป็นเงินสด
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักสงฆ์ถ้ำพระภูทอก ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อไปพบกับพระอาจารย์ สมคิด ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ ถ้ำพระภูทอก ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาประมาณสักวันที่ 8 หรือ 9 มิถุนายน 2564 ได้มีคนมาที่ สำนักสงฆ์ประมาณ 3 คน ขณะที่กำลังทำกิจกรรม เพียงลำพัง ได้มีรถยนต์กระบะ สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า วิ่งและเลี้ยวเข้ามาภายในวัด ตอนแรกนึกว่าเป็นลูกชาย แต่สักพักได้มีผู้หญิงจำนวน 2 คน รูปร่าง อวบ ผมยาวประบ่า และมีอีก 1 คน เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว โดยผู้หญิงเดินเข้ามาหาตน และบอกว่ามีสบู่มาแจก พร้อมกับ ให้จับฉลากที่อยู่ในกล่องสบู่ ตนจึงเปิดสบู่ไป 2 กล่องและมี ฉลากข้างใน ปรากฏว่า ได้รางวัลเป็นนาฬิกา ผู้หญิงที่มาด้วยกัน 2 คนจึงบอกว่า ต้องจ่ายเงิน 2,500 บาท ค่าที่ได้รางวัลเป็นนาฬิกา โดยพระสมคิดบอกว่าไม่ยอมเอาของรางวัลจากนั้นผู้หญิงอีกคนก็พยามเข้ามามาใกล้แล้วผู้หญิงอีกคนพยามจะถ่ายรูปจึงตัดสินใจบอกไปว่ามีเงินแค่ 1 พันบาท ผู้หญิงทั่ง 2 คนเลยบอกว่ามีเท่าไรก็เอาเท่านั้นเมื่อจ่ายเงินเสร็จทั่งหมดก็รีบขับรถออกจากวัดไม่อย่างรวดเร็วดูทะเบียนก็ไม่ทัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ตรวจสอบที่ พักสงฆ์อัมรินทร์หินแม่ช้าง บ.แฝก ต.โพนงาม อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้พบกับ พระลำไย อายุ60ปี จำวันอยู่รูปเดียว เปิดเผยว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาจำวันที่ไม่ได้แต่แก๊งต้มตุ๋นได้มาประมาณช่วงบ่ายๆขับรถกระบะสีขาว มีผู้หญิง2คน ส่วนคนขับไม่ได้ลงมาจากรถจอดห่างจากที่พักประมาณ100เมตร และผู้หญิง2คนก็เดินมาเพื่อ มาเสนอแจกสบู่ฟรีพร้อมกับบอกว่าในกล่องมีรางวัลใหญ่พอเปิดก็พบว่าได้เป็นนาฬิกาผู้หญิงที่มาก็เลยบอกว่าต้องจ่าย2,500บาท โดยตอนนั้นพระก็บอกว่าจะไม่จ่ายเพราะมีเงินไม่ถึงแม่แค่2,200บาทก็เลยบอกไปว่าไม่เอา เพราะมีเงินไม่ถึง2,500บาทแก๊งต้มตุ๋นจึงยอมลดให้จึง พร้อมกับ ได้สบู่มา2ก้อนพร้อมนาฬิกาสีทอง1เรือนซึ่งตอนนี้พระทั่ง2รูปยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีเวลาไปที่สถานีตำรวจแต่อยากแจ้งเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวัง มิจฉาชีพในช่วงนี้ด้วย