svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ร้านอาหารจ่อปิดนับแสน ชี้"คนละครึ่ง"ก็ช่วยไม่ได้ นายกฯภัตตาคาร จ่อชง"นายกฯ-ศบค."ตั้งคกก.ร่วมเยียวยา

14 มิถุนายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ร้านอาหารจ่อปิดกิจการนับแสนราย ชี้ "คนละครึ่ง" ก็ช่วยอะไรไม่ได้ นายกสมาคมภัตตาคาร จ่อชง "นายกฯ-ศบค." ตั้งคณะกรรมการร่วม หามาตรการเยียวยาให้ตรงปัญหา ระบุ หลังมิ.ย.การว่างงานและขาดรายได้ จะเริ่มเห็นชัด

วานนี้ (14 มิ.ย.) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมเสนอมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นกลุ่มเอสเอ็มอี ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ โดยให้ศบค.เห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับภัตตาคารและร้านอาหาร ที่ประกอบด้วยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร

แนวคิดตั้งคณะกรรมการดูแลโดยตรง เนื่องจากร้านอาหารถือเป็นหนึ่งในภาคบริการ มีเครือข่ายห่วงโซ่เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจและจำนวนคนเป็นล้านๆคน และรองรับแรงงานที่ตกงานจากหลากหลายอาชีพ ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการร้านอาหารประสบปัญหา ก็จะกระทบเป็นวงกว้างทั้งธุรกิจและแรงงาน ที่ผ่านมาเราไม่มีปากเสียงต่อการเข้าร้องเรียนโดยตรงกับภาครัฐ เพื่อให้มาตรการเยียวยาและช่วยเหลือตรงกับความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละกลุ่ม

"เราวิตกว่าหากหลังเดือนมิถุนายนนี้การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลายดีขึ้น จะยิ่งกดดันกำลังซื้อประชาชน กระทบร้านอาหารปิดตัว แม้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน เช่น คนละครึ่ง แต่ข้อจำกัดการเปิดร้าน หรือ กำลังซื้อประชาชนไม่ได้มากขึ้น ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ประกอบการอาหาร อีกทั้งที่ผ่านมา มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ไม่ได้ตรงจุด เราต้องการสินเชื่อเงินไม่ได้มาก 5 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อราย ในเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนซื้อสินค้าหรือประคองแรงงาน ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้

หรือ ปัญหาต้นทุนสูง อย่างเปิดร้านได้น้อยก็ขายออนไลน์ แต่ก็เจอเรื่องถูกเก็บค่าบริการ(จีพี)จัดส่งดิลิเวอรี่ จากเจ้าของแพลตฟอร์ม ทำให้รายได้จริงไม่พอค่าใช้จ่าย เมื่อเรามีคณะกรรมการก็ดีต่อการเจรจา เพื่อให้ผ่อนปรนค่าจีพี ให้ช่วยเหลือระหว่างกันมากขึ้น เช่น ลด 50% จนกว่าโควิดจะดีขึ้น อีกทั้ง การมีคณะกรรมการร่วม จะได้รู้ข้อมูลที่แท้จริง เช่น ตัวเลขร้านอาหารจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์มีเพียง 1.5 หมื่นราย แต่ไปดูจำนวนร้านอาหารเสียภาษีกับกระทรวงการคลังมีเป็นแสนๆราย ที่เสี่ยงปิดตัวจากหมดสายป่านหลังแบกภาระขาดรายได้จากมาตรการเข้มช่วงโควิด ที่เราเสนอพียงให้เกิดการช่วยเหลือได้จริง ตรงจุด และรวดเร็ว บนกติกาที่เหมาะสม " นางฐนิวรรณ กล่าว

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า จะยังไม่มีการนำเสนอในการปลดล็อกหรือผ่อนปรนอะไรในช่วงนี้ เพราะยังเห็นจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันยังสูง และการกระจายฉีดวัคซีนเพิ่งเริ่มดำเนินการ จึงเชื่อว่าศบค.จะพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป ที่ผู้ประกอบการต้องการตอนนี้คือความช่วยเหลือเฉพาะหน้าที่ให้ร้านเปิดได้ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณเลิกร้านเพิ่มขึ้น จะชัดเจนมากขึ้นหลังมิถุนายนนี้ โดยเฉพาะร้านในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาว่างงานและขาดรายได้อย่างรุนแรง

logoline