วันนี้ (13 มิ.ย.64) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการงบประมาณ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ตนได้ติดตามข่าวที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงงบลับในร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2565 โดยตลอดมา พบประเด็นเกี่ยวกับงบลับที่นายยุทธพงศ์ แถลงข่าวแล้วมีการโพสต์ในเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทยด้วย จำนวน 3 ครั้ง มีข้อมูลในทำนองที่ว่า งบลับ แทรกซึมไปในทุกกระทรวง ทุกสำนัก ทบวง กรมต่างๆ ตรวจสอบกับเอกสารงบประมาณ ปี 2565 พบว่า ไม่มีงบลับแทรกซึมไปในทุกกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ มีเพียงบางหน่วยเท่านั้น และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไม่มีรายการงบลับ 19 รายการ รวมทั้งสิ้น 558 ล้านบาท ตามที่แถลงข่าวและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า งบลับ ดังกล่าวมีการตั้งไว้ที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อคลิปแถลงข่าวและข้อมูลงบลับที่อยู่ในเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับเอกสารงบประมาณรายจ่าย 2565 กรณี จึงมีเหตุต้องตรวจสอบว่าคลิปและข้อมูลในเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 ครั้งดังกล่าวข้างต้น จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามความในมาตรา 14 และหรือมาตรา 15 ของพ.ร.บ.คอมฯ 2550 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อมีการนำคลิปและข้อมูลงบลับดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ซึ่งเผยแพร่สู่สาธารณะ ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ และเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมฯเกิดขึ้นแล้ว และงบลับเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งไม่ทราบว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ได้ดำเนินการ หรือไม่ ประกอบกับนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำใดๆ ที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องที่ นายยุทธพงศ์ กับพรรคเพื่อไทย นำข้อมูลเรื่องงบลับมากล่าวอ้างแล้วเผยแพร่ในเฟซบุ๊กดังกล่าว แต่ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ประกอบกับแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่นำมาศึกษาเทียบเคียง จึงมีเหตุต้องขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบว่า นายยุทธพงศ์ กับพรรคเพื่อไทย มีการกระทำที่จะเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่ โดยวันที่ 14 มิ.ย. ตนจะส่งเรื่องทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้สั่งกระทรวง ดีอีเอส ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอีกทางหนึ่งด้วย