แต่ความหลงรักเชียงใหม่เกิดขึ้นจริงจังเมื่อผมไปเที่ยวงาน NAP งานแสดงศิลปะ ของใช้ ของที่ระลึกทำมือ งานคราฟท์ ที่ศิลปินร่วมสมัยท้องถิ่นรวมตัวกันเปิดร้าน เป็นงานประจำปีที่ นิมมานฯ ซอย 1 ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ผมก็ไปต่อเนื่องมา 10 กว่าปี ในขณะที่ผมชอบเดินเที่ยวงานอาร์ตปีละครั้ง อุดมกลับหลงใหลตั้งใจจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่
พอรู้จักเชียงใหม่มากขึ้นผมได้สังเกตว่าถนนนิมมานฯ มีลักษณะหัว-ท้าย ร้าง ตรงกลางเจริญ ศูนย์กลางความเจริญของ ถ.นิมมานฯ รวมตัวกันในชื่อ "วอร์ม อัพ" กับ "มังกี้ ผับ" ในขณะที่ร้านอาร์ตเล็กๆ ร้านอาหารอร่อยๆ กระจายอยู่ตามแนวถนนและเก็บตัวอยู่ภายในซอย 1-17 เกือบทุกร้านมีงานศิลปะเป็นเอกลักษณ์ประจำหน้าร้านที่จังหวัดอื่นไม่ค่อยมี การซ่อนตัวตามซอยเล็กๆ เป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ต้องใช้การเดินเข้าไปสังเกตแล้วสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองเท่านั้น
ไปเที่ยวบ่อยๆ ทำให้ผมฝันว่าถ้ามีโอกาส ผมอยากมีส่วนร่วมสร้างถนนเส้นนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเล็กๆ อีกแห่งของเชียงใหม่ ในหัวผมเริ่มเชื่อมโยงภาพสี่แยก ถ.นิมมานฯ เข้ากับอีกเมืองที่ผมชอบเดินทางไป ...ชิบูย่า โตเกียว
ถ้าใครเคยไปพักโรงแรมอีสติน ตัน ตรงหัวมุม ถ.นิมมานฯ แล้วเห็นต้นไทรขนาดใหญ่เกือบ 10 คนโอบ ต้นไม้ใหญ่นั้นคือจุดเริ่มต้นของผมกับการทำงานบนที่ดินผืนนี้ ครั้งแรกที่เห็น ผมคิดเล่นๆ ว่าถ้าเจ้าของขายต้นไทรนี้ ผมจะขอซื้อที่ด้วย มีฝรั่งคนหนึ่งเข้ามาถามอย่างตกใจว่าถ้าผมซื้อที่ผืนนี้ เขาขอร้องว่าอย่าตัดต้นไม้นะ ไม้ใหญ่สวยแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ผมตอบเขาไปว่าถ้าไม่มีต้นไม้ต้นนี้ผมก็คงไม่มีโอกาสมาป้วนเปี้ยนตรงที่ดินแปลงนี้
จากนั้นผมก็ขวนขวายจนได้ไปพบคุณอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของที่จนได้ ท่านซื้อที่ตรงนี้มาหลายสิบปีแต่ยังไม่มีโครงการจะสร้างอะไร ผมจึงเสนอตัวขออนุญาตทำตามความฝันที่คิดเอาไว้ คุณอนันต์คงเห็นความตั้งใจจริง จึงขายต้นไม้แถมที่ดินผืนนี้ให้ จุดเริ่มต้นความฝันเกิดขึ้นตรงนี้ จากที่เคยไปเชียงใหม่ปีละครั้งกลายเป็นเดือนละครั้ง ในที่สุดผมได้เจอที่ผืนใหม่ตรงจุดที่เป็น "เมญ่า" ในปัจจุบัน ตอนนั้นเขาติดป้ายประกาศเปิดประมูลซื้อที่ดิน เหลือเวลายื่นประมูลอีกไม่กี่วันสุดท้ายผมโทรขออนุมัติวงเงินกับเมียทันที ไม่น่าเชื่อ...ยื่นทันก่อนจะหมดนาทีสุดท้าย ทราบภายหลังว่าที่ผืนนั้นมีคนส่งราคาประมูล 1 คนถ้วน...ผมเองครับ
ในตอนแรกยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะทำอะไรในที่สุดผมตัดสินใจขายให้กับคุณสุวัฒน์ SF ในราคาถูกกว่าผู้ซื้ออีกรายที่ต้องการนำที่ไปสร้างคอนโดถึง 18 ล้านบาท ด้วยเงื่อนไขเดียวคือ ต้องการสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ การขายขาดทุนกำไร 18 ล้านก็เพื่อแลกกับอนาคตความเจริญของสี่แยกแห่งนี้ สำหรับผมแค่นี้ก็คุ้มแล้ว
หัวมุมถนนอีกด้านของนิมมานฯ มีสุดยอดแลนด์มาร์คอีกแห่งที่เคยรุ่งเรืองสุดๆ เป็นที่ตั้งของบ้านไม้สักทองหลังใหญ่ ที่เป็นทรัพย์สินของโรงแรม รินคำ โรงแรม 5 ดาวแห่งแรกของเชียงใหม่ นักธุรกิจไทยและต่างประเทศ คนในแวดวงสังคม หรือข้าราชาการชั้นผู้ใหญ่เมื่อ 50 ปีที่แล้วต้องเคยไปพักหรือทานข้าวที่นี่ เด็กเชียงใหม่ยุคนั้นคงยังจำภาพทรงจำของการมาว่ายน้ำที่สระน้ำของโรงแรมได้ ตรงนี้คือ Icon Siam ของเชียงใหม่ในอดีต
เจ้าของพื้นที่คือตระกูลนิมมานเหมินทร์ ต่อมาได้ร่วมทุนกับกลุ่มโรงแรม อมารี ที่ตรงนี้ติดประเด็นข้อกฎหมายใหม่ ไม่สามารถสร้างอาคารใหม่ได้ ถ้าจะใช้พื้นที่มีทางเดียวคือซ่อมอาคารหลังเก่าอายุ 50 กว่าปี เพื่อให้สามารถใช้งานต่อไปได้อีก 50 ปี เมื่อสร้างอาคารใหม่ไม่ได้ การซ่อมก็ไม่คุ้มทุน โรงแรมอมารี รินคำจึงปิดตัวลงทันทีที่หมดสัญญา