นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบคณะเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม และคณะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งการแพทย์ การสาธารณสุข จนถึงเรื่องการค้า
นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านทูตเบลเยียม หารือข้อตกลงทำการแลกเปลี่ยนการดูแลสุขภาพ และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับคนเบลเยียม ที่พักอาศัยในไทย ที่มีจำนวนมากกว่าหมื่นคน โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ซึ่งไทยสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประกันสังคมประเทศต้นทางได้
ขณะที่ประเทศฝรั่งเศส มาเจรจาขออนุญาตกรมควบคุมโรค นำเข้าวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว เพื่อนำมาฉีดให้คนฝรั่งเศส อายุ 45 ปีขึ้นไป ที่อาศัยในไทย
เบื้องต้นกรมควบคุมโรคเห็นชอบในหลักการ และทราบว่าฝรั่งเศสจะนำเข้ามาในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ จำนวน 1 หมื่นโดส สรุปคือประเทศที่นำวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เข้ามาฉีดให้คนของเขาในไทย กรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องฉีดในสถานทูต ซึ่งบุคลากรแพทย์ จะมีความมั่นใจว่า วัคซีนเหล่านั้นได้รับการขึ้นทะเบียนและนำเข้ามาฉีดอย่างถูกต้องแล้ว