ตา 82 ใจสู้! ใช้นิ้วจิ้มตาโจร
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
คุณตาวัย 82 ปี ถูกคนร้ายบุกเอาถุงผ้าคลุมจี้ชิงทรัพย์ ถึงในใต้ถุนหอพัก แต่ฮึดสู้เอานิ้วจิ้มตาคนร้าย ทำให้ได้ไปแค่เงินสด 13,440 บาท ก่อนตำรวจตามรวบได้ 1 ราย ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างการติดตาม
วันที่ 11 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม พ.ต.ท.ธนัตถ์ นันศิริ สว.สส.สภ.แม่ริม พร้อมชุดสืบสวนนำตัวนายหล้า ไม่มีนามสกุล อายุ 35 ปีชาวไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมา ไปทำแผนประกอบคำรับสภาพที่บริเวณใต้ถุนหอพักสุริยะมณี บ้านท้องฝายหมู่ 6 ตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีนายมานพ ศิริพันธ์ อายุ 82 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสภ.แม่ริม ว่าได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนทราบชื่อนายแดง และนายหล้า ได้ขับรถจักรยานยนต์ มาจอดที่บริเวณหอพักที่ตนพักอาศัยอยู่และจี้ชิงทรัพย์ตนไปตำรวจจึงได้ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายกระทั่งจับกุมได้
นายมานพ ศิริพันธ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 ช่วงเที่ยงวัน ตนเองได้นอนเก้าอี้พักดูทีวีใต้ถุนหอพัก จู่ๆมีคนร้ายเป็นชายสองคนเดินเข้ามาภายในหอพักหลังจากนั้นคนร้ายก็ได้ใช้ถุงผ้า มาคลุมหัวตนไว้แล้วใช้มือล็อกคอไว้ เพื่อไม่ให้ตนขัดขืน ส่วนอีกคนพยายามใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกงตนเพื่อนำกระเป๋าสตางค์ของตนไป ตนก็พยายามต่อสู้ขัดขืนคนร้ายทำให้แว่นตาหัก เนื่องจากคนร้ายอีกคนพยายามกระชากนาฬิกาข้อมือของตน แต่แกะออกไม่ได้เพราะตนพยายามฮึดสู้โดยใช้นิ้วมือสามนิ้วแทงเข้าไปที่เบ้าตาคนร้ายจนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีออกจากหอไป
เมื่อคนร้ายวิ่งไปจึงลุกขึ้นยืนและเห็นหน้าคนร้ายทราบว่าเป็นนายแดงและนายหล้าจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แม่ริม เพราะกระเป๋าสตางค์ที่คนร้ายได้เงินไปนั้นมีเงินทั้งหมดที่ลูกๆตนไว้ให้ใช้และเก็บสะสมเรื่อยมาจำนวน 13,440 บาท ตนรู้สึกเสียใจมากเพราะคนร้ายทั้งสองคนนั้นเป็นคนงานของนางจำปี สุริยะมณี อายุ 66 ปี เจ้าของหอพัก ที่ผ่านมาตนเคยให้เงินให้ข้าวของกับคนร้ายทั้งสองไม่คิดว่าจะกล้ามาก่อเหตุกับตนทำให้ตนเสียทั้งเงินและมีบาดแผลเขียวชำทั้งลำคอและแขน จึงต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม เปิดเผยว่า หลังตำรวจรับแจ้งเหตุก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดและตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางจึงทราบเบาะแสคนร้ายพบว่าคนร้ายทั้งสองเคยพักอาศัยที่หอพักใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จึงเสนอศาลออกหมายจับและได้ติดตามตัวนายหล้า ผู้ต้องหาที่ ได้หลบหนีไปพักบ้านเพื่อนในพื้นที่บ้านเมืองนะ อำเภอเชียงดาว พร้อมเงินของกลาง 2,000 บาท จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเดิมเข้ามาเมืองไทยเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อสร้าง แต่ก็เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด พอออกมาหวังกลับตัวเป็นคนดี หางานสุจริตทำ แต่เพราะจากปัญหาโควิด-19 รุมเร้าทำให้ตกงาน ไม่มีงานทำไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุร้ายนี้ขึ้นเพราะรู้ว่าผู้เสียหายเป็นคนมีเงินมีทอง พอได้เงินมาก็แบ่งกันและก็หลบหนีไปกบดานบ้านนอก เพื่อทำไร่ทำสวน ไม่คาดจะถูกจับกุมตัว
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ พร้อมกันนี้ก็จะเร่งติดตามตัวนายแดง ผู้ต้องหาอีกคนที่ร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
