ชาวโยธะกา วอน สังคมอย่าดราม่า ปั้นศิวลึงค์ขอฝน เผยทำมาแต่ยุคปู่ย่า ได้ผลทันตา

วานนี้(10 มิ.ย.64) ชาวบ้านโยธะกา นำโดยนายชำนาญ แก่นทองแดง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกระแสสะพัดบนโลกโซเชียล หลังจากชาวบ้าน ม.2 ม.6 และ ม.9 ได้ร่วมใจกันปั้นศิวลึงค์เพื่อขอฝน หลังจากขาดน้ำในการทำนาเหตุจากฝนได้เว้นช่วงมานานตั้งแต่เมื่อต้นเดือน พ.ค.64 ว่า สิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นมานั้นเป็นความเชื่อทางประเพณีในท้องถิ่นที่เคยทำกันมาแต่โบราณนับแต่ในอดีตมาหลายชั่วอายุคน เนื่องจากชาวบ้านใน ต.โยธะกา มีอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก โดยมีผืนนาหลายหมื่นไร่ ที่ต้นข้าวยังยืนต้นรอฝนที่ขาดช่วงไป โดยจะมีการนำดินเหนียวแดงมาปั้นศิวลึงค์เพื่อขอฝนกันเป็นประจำแต่ไม่ทุกปี จะมีการปั้นเฉพาะปีที่มีฝนน้อยหรือฝนไม่ตกต้องตรงตามฤดูกาลที่ชาวบ้านต้องการจะทำนา

เช่นเดียวกับการแห่นางแมว ซึ่งชาวบ้านก็เคยทำควบคู่กันมานับแต่ในอดีต แต่เมื่อแมวถูกสาดน้ำ ชาวบ้านก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นทรมานสัตว์ ต่อมาในระยะหลังจึงได้เลิกแห่นางแมวกันไปนานหลายปีแล้ว ส่วนการปั้นศิวลึงค์นี้ ถือว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพราะตรงจุดที่สร้างหรือปั้นขึ้นมากลางถนนนั้น เป็นเส้นทางตันมุ่งหน้าลงคลองเพื่อเข้าไปยังที่บริเวณประตูระบายน้ำคลอง 20 และไม่มีรถสัญจรผ่าน ซึ่งเป็นเส้นทางพุ่งลงคลองจึงห้ามรถเข้าไปโดยเด็ดขาด และหากมีฝนตกลงมาตามที่ขอแล้ว ดินเหนียวที่ชาวบ้านปั้นขึ้นมาก็จะถูกน้ำฝนละลายลงไปเอง ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ ล่าสุดหลังจากที่ได้มีการปั้นกันขึ้นมาเมื่อวานนี้(9มิ.ย.) ได้เริมมีฝนโปรยลงมาเมื่อช่วงเช้านี้แล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่หนักมาก และในช่วงบ่ายของวันนี้ ก็ได้ฝนตกลงมาอีกห่าหนึ่งแล้วจนมีน้ำขังขึ้นมาในระดับหนึ่ง รวมเป็น 2 ห่าแล้ว หลังจากที่ได้ปั้นศิวลึงค์ขอฝนขึ้นมา

โดยในวันนี้ยังมีเมฆฝนทับตะวันสีดำลอยอยู่บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกอีกในเย็นวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณดี ตามหลักโบราณที่ว่า หากมีเมฆฝนทับตะวันเกิดขึ้นนั้น จะทำให้มีฝนตกลงมาห่าใหญ่สมกับความต้องการของชาวบ้านที่ได้ทำพิธีขอฝนกันขึ้นมาในครั้งนี้ ชาวบ้านพร้อมผู้นำชุมชน และคนเฒ่าคนแก่ผู้ที่ร่วมใจกันปั้นศิวลึงค์ขึ้นมาระบุ

สนทะนาพร อินจันทร์ รายงาน จากจ.ฉะเชิงเทรา