เลขาฯสมช.เข้มสั่งหน่วยงานมั่นคง ควบคุมแคมป์ก่อสร้างทั่วกรุง เหตุเคลื่อนย้ายแรงงานทำระบาดพุ่ง

วันนี้(10มิ.ย.64)พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหารและเทศกิจ เข้าตรึงกำลัง ควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้างเนื่องจากในห้วงเวลาที่ผ่านมามีความกังวลว่าจะทำให้ประชาชนตระหนก ในการใช้กำลังหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ผลการดำเนินการกลับพบว่า แรงงานต่างด้าวตามสถานประกอบการต่างๆ มีผู้ติดเชื้อ แต่ยังมีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปจุดต่างๆ เพราะฉะนั้นจากนี้เป็นต้นไปจะใช้กำลังอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยใช้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าควบคุม ซึ่งเป็นเรื่องที่กรุงเทพมหานครร้องเข้ามา โดยแต่ละไซต์จะใช้เจ้าหน้าที่ 4-5 นาย ส่วนจะควบคุมกี่จุดจะมีการหารือในที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง แต่จะใช้ตามความจำเป็น

"วันนี้จะเริ่มมาตราการการซีลแคมป์ก่อสร้างต่างๆให้เข้มงวดขึ้น เพื่อทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ซึ่งจะเป็นการประเมินสถานการณ์ควบคู่กันไป ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่ใช่ว่าไม่ให้ความร่วมมือ แต่อาจไม่เข้าใจ เคลื่อนย้ายแรงงานที่อาจไม่ติดเชื้อไปมายังแคมป์ก่อสร้างอื่น ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกัน ต่อจากนี้จะค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นขึ้น หากผ่านไปอีกระยะหนึ่งแล้วสถานการณ์ดีขึ้นก็จะมีการผ่อนคลาย เพราะต้องระมัดระวังเรื่องเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย และจะพยายามทำให้ดีที่สุด รวมถึงจะผ่อนคลายให้เร็วที่สุด ขณะที่บทลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือทางกรุงเทพมหานครมีบทลงโทษอยู่แล้ว ซึ่งมีการตรวจตามรายงานของศบค.ทุกวัน"กล่าวและว่า

สำหรับการเปิดเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 14 มิ.ย.นี้ กำลังรอกระทรวงสาธารณสุขประเมิน ถึงการเรียนการสอนจะเปิดได้ คงเป็นการเรียนแบบออนไลน์ แต่ทั้งหมดต้องฟังกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษาแล้วจะมีโอกาสเปิดการสอนแบบออนไซต์ในวันที่ 14 มิ.ย.หรือไม่นั้น ในพื้นที่สีแดงเข้ม เท่าที่ฟังรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขยังคงมีความเป็นห่วง ซึ่งศบค.เองกำลังเพิ่มความเข้มข้นในมาตราการ สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรือมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

ส่วนกรณีที่ประชาชนเกิดความกังวลในการฉีดวัคซีนหลังพบผลข้างเคียงจำนวนมากจะกระทบกับเป้าการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น พลเอกณัฐพล ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขได้หารือกันแล้ว แต่ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น ในการเสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุขได้มีการสอบสวนถึงสาเหตุแต่ในส่วนของการเยียวยา จะมีการเยียวยาทันทีไม่ต้องรอผลการสอบสวน ซึ่ง สปสช.จะเป็นผู้ดำเนินการ