ที่ประชุม "อาเซียน-จีน" ยังห่วงสถานการณ์ในเมียนมา

ในการประชุมด้วยตัวเองครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ อินโดนีเซียและมาเลเซีย ได้แสดงความผิดหวังที่เมียนมาไม่ปฏิบัติตาม "ฉันทามติ 5 ข้อ" ที่เห็นชอบโดยผู้นำอาเซียนในที่ประชุมสุดยอดวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่มีพลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย และนายวันนา หม่อง ละวิน รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่กองทัพเมียนมาแต่งตั้ง เข้าร่วมด้วย 
ประเด็นอื่นที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุม อันเป็นส่วนหนึ่งของวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ได้รวมถึงการเปิดพรมแดนอีกครั้ง แม้หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะยังรับมือกับตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น และความตึงเครียดในทะเลจีนใต้
นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ระหว่างอาเซียนกับจีน ในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยชี้ไปที่การจัดหาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นของจีน และการสนับสนุนการฉีดวัคซีนทั่วทั้งภูมิภาค 
ด้านนางเร็ตโน มาซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ได้เรียกร้องให้มีความร่วมมือด้านวัคซีนกับจีนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวัคซีนของ Sinopharm กับ Sinovac ถูกบรรจุในรายชื่อวัคซีนที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO และนอกเหนือจากประเด็นวัคซีนแล้ว ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีนในการสร้างความยืดหยุ่นด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค ก็มีความสำคัญเช่นกัน
ส่วนกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า เวทีการเจรจาแสดงให้เห็นว่า แม้เพื่อนบ้านอาจมีความขัดแย้งในบางครั้ง แต่พวกเขาสามารถ "เปลี่ยนความขัดแย้งให้เป็นความร่วมมือ" เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ถ้อยแถลงยังเรียกร้องให้ดำเนินการตามหลักจรรยาบรรณในน่านน้ำด้วยว่า "เราต้องร่วมกันรักษาเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ และหลีกเลี่ยงการกระทำฝ่ายเดียวที่อาจทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น"