svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ไทยไม่ทน" ยื่นหนังสือไล่นายกฯ ครั้งที่ 2 ขู่"ประยุทธ์"อยู่ต่อเตรียมพบแม่น้ำร้อยสายไหลสู่ทำเนียบ

08 มิถุนายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ไทยไม่ทน" ยื่นหนังสือไล่นายกฯ ครั้งที่ 2 ลั่น ถ้านายกฯอยู่ต่อเตรียมรับมือมวลชนแห่มาทำเนียบ ระบุ รอบนี้เพิ่มประเด็นรัฐเอื้อนายทุนผูกขาดพลังงาน ชี้ไทยไม่เคยเจอระบบเช่นนี้

วันนี้(8 มิ.ย.64) ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ใกล้ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มไทยไม่ทน ร่วม คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ สมความคิด เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับหนังสือ

นายจตุพรกล่าวว่า ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เหตุผลหลักเพื่อต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเช่นเดิม แต่ประเด็นที่เพิ่มเติมในครั้งนี้ คือเรื่องของกลุ่มนายทุนผูกขาด โดยเฉพาะด้านพลังงานที่นับวันเริ่มมีอำนาจเหนือรัฐบาล และการบริหารการทำงานก็ทำให้กลุ่มนายทุนเหล่านี้ผูกขาดอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเจอระบบเช่นนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีเองก็เป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย โกหกซ้ำไปมาและไม่เคยสำนึกในความผิดตัวเองสักครั้ง อีกทั้งการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันก็ล้มเหลว ฉะนั้นแล้วนายกรัฐมนตรีจึงต้องลาออกเพราะไม่สามารถ รักษาผลประโยชน์ของชาติไว้ได้ อีกไม่นานแม่น้ำทั้งร้อยสาย จะเวียนมาที่ทำเนียบรัฐบาล อย่าคิดว่าเพราะสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้คนหวาดกลัวและไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหว หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆได้พวกเขาเหล่านั้นจะมุ่งมาที่นี่ ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าตนเดินทางมาเพราะต้องการจะยื่นเรื่องนิรโทษกรรม ขณะนี้ยอมรับว่าไม่ได้คิดถึงประเด็นนั้นแล้วรวมถึงการปรองดองด้วย ถือว่าหมดเวลาแล้ว

ด้านนายวีระ กล่าวว่า ยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่ต้องการให้หัวหน้ากบฏบริหารประเทศต่อ บริหารประเทศมาแล้ว 7 ปี เป็นเวลานานมากพอแล้ว และย้ำว่าความเสียหายที่สำคัญที่สุดคือเรื่องกลุ่มนายทุนพลังงานที่ผูกขาดมีอำนาจเหนือรัฐบาล การที่นายกรัฐมนตรียังคงดำรงตำแหน่งต่อไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีคนมาต่อต้านมากกว่านี้

ทั้งนี้กลุ่มไทยไม่ทน มีกำหนดการเดินทางไปรัฐสภาแห่งใหม่วันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) เพื่อยื่นหนังสือให้ประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ลาออกจากหนึ่งในกลไกของรัฐสภา โดยในหนังสือมีใจความระบุว่า
คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้ติดตามการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ประกาศลุกขึ้นต่อต้านและเรียกร้องให้พล. อ. ประยุทธ์ลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง เพื่อให้คนใหม่ที่สภาผู้แทนราษฎรเลือกขึ้นมาทำหน้าที่แทน เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นทางออกเดียวที่ประเทศชาติจะพ้นจากหายนะครั้งใหญ่อันเกิดจากความเห็นแก่ตัวและหลงติดอำนาจของหัวหน้ากบฏ

การบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลกบฏภายใต้การนำของพล. อ.ประยุทธ์ มีมากมายไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในสถานการณ์วิกฤตรอบด้าน ทำให้ตัวผู้นำเป็นอุปสรรคและศูนย์กลางปัญหาทั้งหมด ผูกขาดอำนาจจนสร้างความขัดแย้งบานปลายไปทุกหย่อมหญ้า แก้ไขปัญหาเชื่องช้าตามกลไกระบบราชการและมีผลประโยชน์ทับซ้อน จากการใช้อำนาจพิเศษมากมายที่เกิดผลกระทบสู่ประชาชนวงกว้าง โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ให้บรรดาเจ้าสัวในเมืองไทยและนักธุรกิจการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ ทั้งสัญญาสัมปทานโครงการร่วมทุน สัญญาจัดซื้อจัดจ้างรวมถึงการลดหย่อนภาษีและส่วนต่างทางเศรษฐกิจต่างๆ จนเกิดระบอบ "เศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาดประชารัฐ" ขึ้นในปัจจุบันทำให้กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำอย่างมาก ช่องว่างระหว่างคนจน-คนรวย ถ่างกว้างขึ้นเกิดการแบ่งแยกความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจนตระกูลเจ้าสัว 24 ตระกูลในประเทศไทยและคนเพียง 1% ของประเทศนี้มีทรัพย์สินมากกว่า 67% ของประเทศนี้

อันเป็นผลมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ ในด้านการผูกขาดเศรษฐกิจและการเมืองการฉ้อฉลอำนาจเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ซึ่งมีอย่างมากมาย อาทิ รายชื่อคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลระบอบประยุทธ์ทำให้ประชาชนไม่อาจยอมรับได้ ประชาชนต้องการผู้มีความรู้ความสามารถโดยตรงมาแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง แต่รัฐบาลกบฏเอาคนไม่เหมาะสมกับงานมานั่งเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง แบ่งเก้าอี้กันโดยไม่ได้เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนตามสูตรการเมืองแบบเก่าที่ไม่พัฒนาที่เลวร้ายมีการเอารัฐมนตรีสีเทามาเป็นรัฐมนตรีโดยไม่แยแสต่อความรังเกียจของประชาชนรัฐมนตรีบางคนมาจากมาเฟียผู้มีอิทธิพลเคยต้องคดีและติดคุกคดียาเสพติดมีแบล็คลิสต์ในต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเป็นผู้แทนรัฐบาลไปประชุมต่างประเทศหรือสหภาพยุโรปได้อย่างเต็มภาคภูมิในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทยนอกจากนี้คณะรัฐมนตรีจะนำข้าราชการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ที่ออกมาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 76 ได้อย่างไรในเมื่อคณะรัฐมนตรีไม่มีคุณธรรมจริยธรรมเสียเอง

ดังนั้นคณะไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยจึงขอให้รัฐบาลกบฏลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ก่อให้เกิดขึ้นกับประชาชนจากความเสียหายจากการรวบอำนาจสร้างระบบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาดประชารัฐจนประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่รวยกระจุกจนกระจายจากการบริหารชาติบ้านเมืองที่ล้มเหลวเห็นแก่ตัวเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาแก้ไขปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองก่อนที่ประชาชนจะออกมาเดินขบวนขับไม่ให้ออกไป

logoline