วันนี้(17 พ.ค.) ภายหลังนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก นักธุรกิจชื่อดัง และประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน เข้ามอบตัวพร้อมนำเอกสารหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามหมายจับของศาลอาญา รัชดาฯ ที่ร่วมกันกับพวกรวม 4 คน ที่ถูกจับกุมได้ ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน มีมูลค่าความเสียหายรวมแล้วประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท โดยแสดงความเชื่อมั่นความบริสุทธิ์ของตัวเอง
พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เผยถึงประเด็นการสอบสวนในคดีนี้ จะเน้นในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ความผิด ตามที่พบในพยานหลักฐาน จากนั้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หากการสอบปากคำเสร็จสิ้นในวันนี้ ก็จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไปทันที โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากพิจารณาว่าคดีมีความเสียหายเป็นวงกว้าง มีผู้เสียหายหลายราย
ขณะเดียวกันกลุ่มตัวเเทนผู้เสียหายกว่า 20 คน ที่นำโดย นายอติชาต เลาหพิบูลย์กุล เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่เคยเเจ้งความกล่าวหานายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวก ฉ้อโกง โดย นายอติชาต กล่าว่า ส่วนตัวยอมรับว่าร่วมลงทุนกับนายประสิทธิ์ มานานร่วม 2 ปี มีมูลค่าเสียหาย 80 ล้านบาท ลงทุนทุกรูปเเบบที่นายประสิทธิ์เสนอออกมา เนื่องจากมีความเชื่อถือเนื่องจากนายประสิทธิ์ เป็นบุคคลมีต้นทุนทางสังคม เเละตัวเองก็เคยมีโอกาสได้ลงพื้นที่ร่วมทำจิตอาสากับนายประสิทธิ์ด้วย
ส่วนตัวมองว่าการทำธุรกิจของนายประสิทธิ์ไม่เข้าข่ายเเชร์ลูกโซ่ เพราะมีธุรกิจจริง ได้ผลประกอบการ เเละไม่ได้ปันผลจากการเเนะนำต่อเเต่อย่างใด นายประสิทธิ์ อ้างว่าบริษัทประสบปัญหาสภาพคล่อง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งขัดเเย้งกับความเป็นจริงที่บริษัทนายประสิทธิ์เติบโต
ส่วนผู้เสียหายอีกราย อ้างว่า เคยเป็นพนักงานในบริษัทของนายประสิทธิ์ โดยสมัครเข้าทำงานช่วงเดือนธันวาคม 2563 ก่อนถูกชักชวนให้นำเงินลงทุนสหกรณ์ อ้างจะให้เงินปันผล 15 % ของเงินลงทุน ทุก 39 วัน เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะพนักงานเท่านั้น ตนจึงไปชักชวนครอบครัวเเละญาติ ร่วมลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งก็ได้เงินปันผลครบทุกรอบ เเต่เมื่อภายหลังขอเงินลงทุนคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยง ช่วงเมษายน ที่ผ่านมา พนักงานติดต่อให้ไปเซ็นเอกสาร ประนอมหนี้ โดยระบุจะแบ่งจ่ายชำระหนี้ให้เป็นระยะเวลา 1 ปี เเต่ภายหลังกลับติดต่อไม่ได้ ทุกวันนี้ลำบากมาก เพราะไม่มีเงินจะใช้จ่าย ต้องจำนำของทั้งหมด