เจอตัวแล้ว!! หญิงลูกสองไม่สวมแมสก์ ด่ากราดแม่ค้าผลไม้

วันที่ 11 พ.ค.64 คืบหน้ากรณีเพจดังโพสต์คลิปวิดีโอและข้อความว่า "พอโดนตำรวจจับปรับก็มาร่ำร้องว่าเศรษฐกิจแย่ หาเช้ากินค่ำ โดนประบแล้วจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงครอบครัว แต่พอโดนเตือนให้ใส่แมสก์ สภาพก็เป็นแบบที่เห็น ทำหมันก็ไม่ทันแล้ว..." โดยเป็นภาพคลิปเหตุการณ์ที่หญิงสาวรายหนึ่งอายุประมาณ 25-30 ปี ปั่นจักรยานมาพร้อมเด็กหญิงวัยประมาณ 2 ขวบนั่งหน้าคนปั่น ด้านหลังมีเด็กชายวัย 5-6 ขวบซ้อนอยู่ ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยในขณะที่มาจอดซื้อของ
โดยหญิงแม่ลูกสองที่กำลังขี่จักรยานได้จอดด่าทอมีปากเสียงกับแม่ค้าขายผลไม้ ในเรื่องที่แม่ค้าตักเตือนให้หญิงสาวคนนั้นดังกล่าว สวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชน แต่หญิงสาวคนขี่จักรยานด่ากลับด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะขี่รถจักรยานออกไป โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าตลาดดอนพรหม บริเวณใกล้ป้ายรถประจำ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
คลิกที่นี่เพื่อดูคลิปเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ค.64 พ.ต.ต.พายุ นิลละออ สว.สส.สภ.บางใหญ่ ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกับ น.ส.รัตจิต เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา แม่ค้าขายผลไม้ที่เป็นคู่กรณีกับหญิงขี่จักรยานแม่ลูกสองที่เกิดการโต้เถียงและด่าทอกันตามที่ปรากฎคลิปที่มีการเผยแพร่ในโซเซียล
โดยแม่ค้าผลไม้ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าเกิดเหตุวันไหน แต่เป็นสัปดาห์ก่อน หญิงคนดังกล่าวปั่นจักรยานมาพร้อมเด็กสองคนไม่สวมแมสก์ จากนั้นมาจอดที่หน้าแผงขายผลไม้ตน ตนจึงเตือนไปว่าให้ใส่แมส เพราะตนกลัวติดเชื้อ แต่เขาก็เฉยไม่พูดอะไร ด้วยความโมโหเช่นกันต่อพูดเบาๆขึ้นว่า หน้าด้าน ซึ่งหญิงคนดังกล่าวคงจะได้ยินและไม่พอใจ เลยโกรธด่ากลับตนมาตามที่เห็นในคลิป ตนเป็นแม่ค้าก็กลัวเพราะมีโรคประจำตัวหลายโรค เขาไม่ใส่แมสก็ให้ไปที่อื่นเพราะในสถานการณ์แบบนี้ต้องช่วยกันป้องกันไว้ก่อน เขาไม่กลัวแต่ตนกลัว ส่วนเรื่องการแจ้งความผิดที่ด่าทอกันนั้น ตนไม่ขอแจ้งความเพราะถือว่าเรื่องมันผ่านมาแล้ว ต่างคนต่างอยู่กันไป

ในเวลาต่อมาเจ่าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนค่ายลูกเสือ ซอย 16/3 ต.กร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.กิ่ง (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง หญิงสาวที่ขี่จักรยานไปซื้อของและด่าทอแแม่ค้าผลไม้ในคลิป ให้การว่าวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 5 พ.ค.64 สักประมาณ 8 โมงเช้าตนได้ออกไปซื้ออาหารที่ตลาดเช้าบริเวณดังกล่าว ระหว่างทางที่ขี่รถไปตลาดพร้อมกับลูกสองคนนั้น แมสก์ที่ตนสวมใส่มาเกิดขาดและไม่มีแมสก์สำรองเปลี่ยน ตนจึงถอดใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานไว้ แล้วตั้งใจว่าจะรีบซื้อของกินให้เสร็จก็จะขี่กลับบ้านทันที แต่ปรากฏว่าลูกเกิดหิวน้ำตนจึงจอดแวะซื้อน้ำซึ่งร้านอยู่ติดกับร้านผลไม้ แล้วก็ถูกแม่ค้าต่อว่าเรื่องไม่สวมแมสก์ไปแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งตนก็ยอมรับไม่ได้โต้เถียงอะไร แต่พอได้ยินคำต่อว่าว่าหน้าด้านหลุดออกมา ทำให้ตนเกิดมีอารมณ์โกรธขึ้นมาเช่นกัน จึงด่าทอตอบโต้กับแม่ค้าผลไม้ไป ตนเข้าใจว่าทุกคนกลัวติดโรคระบาด แต่แมสก์ของตนมันขาดก่อนมาถึงตลาดก็เป็นเหตุสุดวิสัยเหมือนกัน พูดจาตักเตือนกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาด่ากันขนาดนี้ ตนยอมรับผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะโกรธที่ถูกด่ามาก่อน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปดำเนินคดีอย่างไรก็ตาม ตนยอมรับแต่คงไม่มีเงินจ่ายค่าปรับเพราะทุกวันนี้ก็เลี้ยงลูกอยู่ 4 คน ทำงานรับจ้างไปวันๆหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเบื้องต้น น.ส.กิ่ง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อสอบปากคำตามที่ น.ส.กิ่ง ให้การรับสารภาพ ก็จะทำสำนวนส่งฟ้องศาลตามความผิด พรก.โรคติดต่อต่อไป โดยความผิดของบุคคลที่ไม่สวมหน้ากากอมามัยในที่ชุมชนมีความผิดปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท