กักตัวบุคลากรทางการแพทย์รพ. ร้อยเอ็ด 52 รายใกล้ชิด ผู้ป่วย โควิด 19

  9 พ.ค.64 นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวว่า บุคลากรโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ได้ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย 2 ราย และญาติที่มาเฝ้าผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งต่อมาได้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ดังนี้

- ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 184 เพศชาย อายุ 30 ปี รับส่งต่อจากโรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 รักษาตัวที่ตึกอายุรกรรมชาย 2 และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564

- ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 194 เพศหญิง อายุ 48 ปี ชาวจตุรพักพิมาน เดินทางกลับจาก จ.อยุธยา และมาเฝ้ามารดาที่ป่วยอยู่ตึกอายุรกรรมหญิง 2 และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อจากเพื่อนที่จ.อยุธยา

- ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรายที่ 195 เพศหญิง อายุ 45 ปี ชาวอำเภอเมืองร้อยเอ็ด เข้ารักษาตัวที่ตึกอายุกรรมหญิง 2 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

เพื่อความปลอดภัยของบุคลกรที่ปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย 37 ราย เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง 26 ราย และผู้มีความเสี่ยงต่ำ 11 ราย จังหวัดร้อยเอ็ดจึงได้เปิดโรงแรมสาเกตนครเพื่อให้แยกจากครอบครัวเข้าพักและสังเกตอาการ พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการจนมั่นใจในความปลอดภัยของบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกคน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาที่ตึกอายุรกรรมชาย 2 และ ตึกอายุรกรรมหญิง 2 จะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเฝ้าสังเกตอาการจนปลอดภัย อย่างน้อย 14 วัน โดยจะไม่รับผู้ป่วยรายใหม่เข้ามารักษาเพิ่มจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัยและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

         สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มาจากพื้นที่เสี่ยงให้กักตัวเอง 14 วัน และหากเจ็บป่วยขอให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลไทม์ไลน์ที่ชัดเจนกับบุคลากร เนื่องจากขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งจังหวัดร้อยเอ็ดต้องอยู่ในกระบวนการการกักตัวเฝ้าดูอาการแล้วกว่า เกือบ 100 คน เพราะเป็นบุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วย

   ด้านนายต่อศักดิ์ โสภากันต์ อายุ 27 ปี (เสื้อสีม่วง) พยาบาลวิชาชีพ 1 ในบุคลากรที่ถูกกักตัวกล่าวว่าตนเองรู้สึกเหนื่อยที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เพราะบุคลากรทุกคนเหนื่อยที่ต้องทำหน้าที่อยู่แล้วแต่ ต้องมากักตัวจากความเสี่ยงจากผู้ป่วยอีกจึงอยากจะวิงวอนขอร้องไปถึงญาติของผู้ป่วยอย่างปกปิดข้อมูลเพราะหากผู้บุคลากรทางการแพทย์ถูกกักตัวก็จะไม่มีคนรักษาคนป่วยต่อไป

ขณะพญ.นภัสวรรณ์ ภูริพันธุ์ภิญโญ (ใส่หน้ากากอนามัย สีเขียว ถ่ายด้านข้าง) รองผู้อำนวยการด้านปฐมภูมิโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ที่ควบคุมการย้ายบุคลากรทางการแพทย์มายังโรงแรมสาเกตนคร กล่าวยืนยัน บุคลากรทางการแพทย์ที่ย้ายมากักตัวไม่ถือว่าเป็นผู้ป่วย เพราะเป็นแค่กลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับคนไข้ 2 ราย ซึ่งหลังจากทราบว่าคนไข้ภาวะติดเชื้อ 2 ราย จึงแยกบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดออกมากักตัวเพื่อรอดูอาการ โดยไม่ให้กลับบ้าน เพื่อป้องกันการใกล้ชิดกับคนในครอบครัว ในขณะเดียวทั้ง 2 ในกรณีสุ่มเสี่ยง ก็มีการควบคุมการห้ามญาติเข้าเยี่ยมเป็นการชั่วคราว และกำหนดให้ญาติเฝ้าคนไข้ในตึกได้ไม่เกินรายละ1คน พร้อมกับควบคุมห้ามเปลี่ยนตัวญาติที่มาเฝ้าไข้ รวมทั้งควบคุมไม่ให้ออกไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนไข้และญาติของคนไข้นอกตึกโดยเด็ดขาดเพื่อรอดูอาการเป็นเวลา 14 วันด้วย