ต่างประเทศวานนี้(6พ.ค.) รีโอเดจาเนโรของบราซิล เจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมตรวจค้นครั้งนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์หนหนึ่งของรัฐแห่งนี้ โดยภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์พบเห็นผู้คนที่้ตกเป็นเป้าหมายของปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้น ในย่านสลัมจาคาเซซินโฮ พยายามหลบหนีโดยปีนข้ามดาดฟ้าที่พักอาศัย ตอนที่ตำรวจเดินทางมาถึงพร้อมหุ้มเกราะและมีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่ด้านบน ขณะที่การปะทะกันอย่างดุเดือด ส่งผลให้พวกชาวบ้านต้องหลบหาที่กำบังอยู่ในบ้านพัก
ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ส่วนที่เหลือเป็นพวกผู้ต้องสงสัยสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติด
ตำรวจระบุว่ามีตำรวจ 3 นายถูกยิง และหนึ่งในนั้นซึ่งถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ขณะเดียวกันตำรวจเปิดเผยว่าในบรรดาผู้ต้องสงสัยที่เสียชีวิตนั้น หลายคนเป็นระดับหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดที่ปกครองวิถีชีวิตผู้คนภายในสลัม และมีผู้ต้องสงสัยอีกอย่างน้อย 10 คนถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่านอกเหนือจากค้ายาเสพติดแล้ว แก๊งเหล่านี้ยังมักก่อเหตุปล้นรถบรรทุกสินค้า และขึ้นไปบนรถไฟชานเมืองเพื่อขโมยทรัพย์สินของผู้โดยสาร
หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่ากระสุนปืนที่ยิงออกมาระหว่างการปะทะพุ่งไปโดนรถไฟรางเบาขบวนหนึ่ง จนบานกระจกรถไฟแตกกระจัดกระจาย ทำให้ผู้โดยสาร 2 คนได้รับบาดเจ็บ
เหตุการณ์นี้นับเป็นปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นครั้งนองเลือดที่สุดในรอบ 16 ปีของรัฐรีโอเดจาเนโร ซึ่งเผชิญกับเหตุความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะในย่านยากจนต่างๆที่เรียกกันว่า "ฟาเวลา"
ก่อนหน้านี้ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นในไบซาดา ฟลูมิเนนเซ แถบชานเมืองทางเหนือที่เต็มไปด้วยเหตุรุนแรงของเมืองรีโอ เมื่อปี 2005 มีผู้เสียชีวิตมากถึง 29 ราย
"มันมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากที่สุดหนหนึ่งในปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นของตำรวจในรีโอ มากกว่า 19 ศพในเหตุการณ์ที่สลัมคอมเพลโซ โอ อาเลเมา ในปี 2007 และเราไม่สูญเสียเจ้าหน้าที่ของเราแม้แต่รายเดียวในเหตุการณ์ครั้งนั้น" โรนัลโด โอลิเวียรา ผู้บัญชาการตำรวจบอกกับรอยเตอร์ส
ระหว่างแถลงข่าวเกี่ยวกับปฏิบัติการจู่โจม ตำรวจได้นำอาวุธต่างๆที่ยึดได้ออกมาแสดง ในนั้นประกอบด้วยปืนไรเฟิลจู่โจม 6 กระบอก ปืนสั้น 15 กระบอก ปืนกล 1 กระบอก ระเบิด 14 ลูกและกระสุนปืนใหญ่ลูกหนึ่ง
(ที่มา:รอยเตอร์ส)