โควิดติดสะบัด แนะจัด "หน้ากาก 2 ชั้น" ป้องกันตัวเอง
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
โควิดระลอกนี้ระบาดหนักแตกต่างจาก 2 ระลอกก่อนหน้า สิ่งที่คนไทยได้เห็นและได้สัมผัส ทั้งด้วยตัวเอง และผ่านข่าวสารจากสื่อแขนงต่างๆ ก็คือโควิดติดเชื้อง่ายกว่าเดิม วงกว้างกว่าเดิม และป่วยตายง่ายกว่าเก่า
ล่าสุดทำให้บุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาล ตลอดจนสำนักงานสาธารณสุขบางจังหวัด บางอำเภอ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดว่า โควิดระลอกนี้ แม้แต่คนเป็นหมอเองก็ยังมองว่าน่ากลัว
อย่างเช่นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ยกตัวอย่างที่อำเภอบางละมุง และแจ้งเตือนว่า อำเภอบางละมุงมีการนำรถพระราชทานมาออกหน่วยค้นหาเชิงรุก ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าติดจากที่ใด และมีจำนวนมากขึ้น น่าจะบ่งบอกถึงว่าเชื้อมีการกระจายตัวนอกเหนือจากการติดกันภายในครอบครัว จึงขอให้เคร่งครัดในมาตรการอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะสุขอนามัยส่วนบุคคล เชื้อเข้าทางจมูก ปากและตา ต้องไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมืออย่างเด็ดขาด สวมแมสก์ (หน้ากากอนามัย) ตลอดเวลา พยายามออกจากบ้านให้น้อยลง อยู่ห่างกัน ล้างมือบ่อยๆ
นอกจากนั้น ในเดือนพฤษภาคมนี้มีวันหยุดหลายวัน ประกอบกับมีการบังคับใช้มาตราการที่เข้มข้นขึ้น ต้องขอความร่วมมือเพิ่มเติม ดังนี้
1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวง2. ซื้ออาหารกลับไปทานที่บ้าน ต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วยกัน3. ป่วยต้องหยุด4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได จุดสแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน
ขณะที่หมอชื่อดังจากแพทยสมาคมส่งข้อความเตือนคนรู้จักว่า "สถานการณ์ตอนนี้ต้องถือเสมือนหนึ่งว่า คนที่เราพบปะด้วย รวมทั้งคนทำงานบ้าน คนขับรถ และ messenger ติดเขื้อโควิด-19 ทุกคน ฉะนั้นต้องป้องกัน100% ใส่ surgical mask หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และสวมหน้ากากผ้าทับ รวมทั้ง face shield ตลอดเวลาที่พบปะผู้คน ก่อนพบปะให้ดื่มน้ำให้พอ จะได้ไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัยระหว่างพูดคุย แต่ถ้าเป็นไปได้อย่าพบปะผู้คน กลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำ และจองฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไรก็ได้ เพราะทุกยี่ห้อมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งหมด ฉีดดีกว่าไม่ฉีด
ขณะที่กรมอนามัย ได้เผยแพร่ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับประชาชนที่ตกเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ดังนี้
1. หยุดงาน หยุดเรียน ไม่ออกไปนอกบ้านหรือที่พักอาศัย ไม่เดินทางไปที่ชุมชนหรือที่สาธารณะอย่างน้อย 14 วัน2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่น อยู่ห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร หากจำเป็นต้องสัมผัสใกล้ชิดต้องสวมหน้ากากอนามัย และใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ไม่คลุกคลีกับเด็กและผู้สูงอายุในบ้านโดยเด็ดขาด3. สังเกตอาการตัวเองและวัดไข้ทุกวัน หากมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการผิดปกติทางผิวหนัง ไอ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ให้รีบไปพบแพทย์4. ในแต่ละวันให้รวบรวมขยะที่เป็นหน้ากากอนามัย ใส่ไว้ในถุง ก่อนทิ้งให้ใส่น้ำยาฟอกขาว 2 ฝา ก่อนใส่ถุงอีกชั้น ปิดปากถุงให้สนิท (***ข้อนี้สำคัญและทุกครัวเรือนควรช่วยกัน เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อไปยังคนเก็บขยะ และสถานที่อื่นๆ ที่ขยะถูกนำไปทิ้ง)5. แยกห้องนอน ห้องน้ำให้ชัดเจน ให้แยกห่างจากกลุ่มเปราะบางหรือผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังให้มากที่สุด พร้อมทั้งแยกอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว แยกการกินอาหาร และการใช้ห้องน้ำห้องส้วมออกจากผู้อื่น แต่หากไม่สามารถแยกห้องได้ ให้ผู้อื่นใช้ห้องน้ำก่อน ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงให้ใช้เป็นคนสุดท้าย พร้อมทำความสะอาดให้เรียบร้อย เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อให้มีการระบายอากาศสู่ภายนอกเป็นระยะ และปิดประตูด้านที่เชื่อมต่อกับคนอื่นภายในบ้าน จะเปิดได้เมื่อจำเป็นเท่านั้น