วันนี้(30 เม.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน ว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของเอกชนในการจัดหาวัคซีน ที่ได้มีการติดต่อไปแล้ว ซึ่งจะได้รับในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือปลายปีนี้ ซึ่งอาจจะมีความล่าช้าและทับซ้อนกับในส่วนของรัฐบาลที่จัดหามาได้ รัฐบาลจึงเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาวัคซีน ตามแผนเดิมที่วางไว้ ภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีน 100 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม ในการจัดหาวัคซีนทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า วัคซีนต่างๆที่ภาคธุรกิจเอกชนจัดหามา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน เพราะทางโรงพยาบาลเอกชน ยังคงดำเนินการตามกลไกของคณะกรรมการพิจารณาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นแนวทางการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่สามารถพูดคุยเจรจาเพิ่มเติมในการนำเข้าวัคซีนทางเลือก พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งเอกชนสามารถดำเนินการจัดหาวัคซีนได้
ส่วนการให้ ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน นายอนุชา กล่าวว่า ในเบื้องต้นเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่น "หมอพร้อม" แล้ว ทั้งยังชี้แจงว่าในขณะนี้ได้วางแผนฉีดวัคซีน 3 ระยะ ขณะที่ความกังวลของผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังหาเตียงไม่ได้นั้น ได้มีการเปิดศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาคารนิมิตรบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์ที่จะช่วยบริหารจัดการสำหรับผู้ที่ยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิค 19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ยังตกค้างอยู่ที่บ้าน และไม่สามารถหาเตียงในสถานพยาบาลได้ โดยผู้ที่จะได้เข้ารับการดูแลในเบื้องต้น จะได้รับการคัดกรองแยกระดับของอาการ ตามระดับความรุนแรงคือ ระดับสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามอาการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของผู้ป่วยติดค้างอยู่ที่บ้านได้
นายอนุชา กล่าวชี้แจงประกาศ ศบค.ที่ขอความร่วมมือแทนการล็อคดาวน์ ซึ่งมีข้อสงสัยว่าจะได้ผลในการควบคุมโควิด-19 หรือไม่ ว่า หากประชาชนให้ความร่วมมือ จะสามารถทำให้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ลดลงไปได้ และทำให้การทำกิจกรรมต่างๆ สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนเรื่องยา เวชภัณฑ์ ที่ใช้รักษาโควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันมีความพร้อมในทุกเรื่อง มีการนำเข้าสำรองและสต็อกไว้เพิ่มเติมแล้ว
สำหรับมาตรการเยียวยาและกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ และกระทรวงการคลัง ได้มีการวางแผนมาตรการต่างๆอยู่ แต่การออกมาตรการทั้งหมดต้องดูจังหวะเวลาที่ประชาชนสามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยได้ตามปกติ
นายอนุชา ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาล ยังมีความมุ่งมั่นในการร่วมมือกันทำงาน แก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้ความแน่ใจกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรี กับพรรคร่วมรัฐบาล ยังทำงานด้วยความเข้มแข็ง ขอให้ประชาชน ร่วมกันให้กำลังใจหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า และให้ความร่วมมือในการดูแลสุขภาพ การทำกิจกรรมต่าง นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการดูแลสุขภาพ การเวิร์คฟอร์มโฮมและการลดการเดินทาง