สั่งกักยาม 14 วัน ตำรวจพาเมียนั่งเฮลิคอปเตอร์และเต้นTiktok
พล.ต.อ.วิสนุ แจง สั่งกักยาม 14 วัน นายตำรวจพาเมียนั่งเฮลิคอปเตอร์และเต้นTictok ชี้ เป็นอำนาจสูงสุดของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ย้ำ การปฏิบัติในโซเชียล 5 ข้อที่ควรทำ และ 9 ข้อที่ทำให้เกิดความเสียหาย หากมีกรณีนี้อีก จะอ้างไม่ได้แล้ว
จากกรณีคลิป พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี แต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนนักร้องประเทศเพื่อนบ้าน เผยแพร่ปรากฏทางสื่อแขนงต่างๆ พร้อมกับคลิปพาภรรยานั่งเฮลิคอปเตอร์ที่มีการเผยแพร่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จสต.) ติดตามผลการพิจารณากรณีดังกล่าว โดย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.อรรคพล ฯ ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งและสังกัดเดิม พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และให้รายงานผลใน 7 วัน
วีนนี้(28เม.ย.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจาก พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ว่าได้พิจารณาผลการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ทั้ง 2 กรณีแล้ว พบว่า กระทำผิดจริง จึงมีคำสั่ง ภ.จว.อุดรธานี ที่ 286 /2564 ลง 27 เม.ย.2564 และ คำสั่ง ภ.จว.อุดรธานี ที่ 287/2564 ลง 27 เม.ย.2564 ลงโทษ พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ โทษฐานประพฤติตนไม่เหมาะสม ให้กักยาม โดยสั่งให้ควบคุมตัวใน กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ในเขตพื้นที่ที่กำหนด กระทงละ 7 วัน รวม 2 กระทงเป็น 14 วัน ซึ่งเป็นการลงทัณฑ์สูงสุดในอำนาจของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ตำรวจอื่น ต่อไป
พล.ต.อ.วิสนุ ฯ กล่าวว่า ไม่ได้เพิกเฉยต่อการแสดงออกของตำรวจที่ทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ เมื่อพบว่าผิด ก็ต้องลงโทษทางวินัย ตามน้ำหนักของความผิด และฝากกำชับถึง ข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งได้ทำ วิดีทัศน์คู่มือแนะนำแนวทางปฏิบัติในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของข้าราชการตำรวจ อย่างเคร่งครัด ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ย้ำว่า การเป็นข้าราชการตำรวจนั้น นอกจาก"สิทธิส่วนบุคคล"แล้ว ยังมีคำว่า "หน้าที่ความรับผิดชอบ"เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต้องให้ความสำคัญทั้ง 2 เรื่อง ในน้ำหนักที่เท่ากัน และ ต้องคิดก่อนทำว่า ทำแล้ว เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หน่วยงาน องค์กร หรือสังคมอย่างไร ซึ่งในแนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ได้ระบุสิ่งที่ควรทำไว้แล้ว เป็นเรื่องสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ 5 ข้อ และสิ่งที่ทำแล้ว เกิดความเสียหายต่อสถาบัน องค์กร หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นไว้ 9 ข้อ ให้ตำรวจทุกนายกลับไปทบทวนให้ดี หากมีข้อบกพร่องเช่นนี้อีก จะอ้างว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้
