23 เมษายน 2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเลย ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นพ.สมชาย ชมพูตำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย แถลงข่าวสถานการณ์การระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) วันนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 รายด้วยกัน เฉพาะเดือน เม.ย.2564 รวม 31 ราย
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จ.เลย ในระลอก เม.ย.2564 วันที่ 23 เม.ย.2564 จำนวน 7 รายประกอบด้วย ผู้ป่วยรายที่ 25 ผู้ป่วย หญิงไทย อายุ 54 ปี ภูมิลำเนา อ.วังสะพุง จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.วังสะพุง วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง มีประวัติสัมผัสกับบุตรสาว (ผู้ป่วยยืนยัน ที่ กทม. ) ซึ่งกลับมาเยี่ยมบ้าน 11-15 เม.ย. 64 ผู้ป่วยมีอาการ ไข้ ไอ (เริ่มป่วยวันที่ 17 เม.ย.64) ผู้ป่วยรายที่ 26 เพศ หญิง อายุ 51 ปี (ภรรยา รายที่ 27) ภูมิลำเนา อ.เมืองเลย จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง 3 สัปดาห์ก่อนป่วยเดินทางไปเที่ยวภูเก็ตและกลับจังหวัดเลย 7 เมษายน 2564 และอยู่บ้านและที่ทำงานในอำเภอเมืองเลย ผู้ป่วยมีอาการ 15 เมษายน 2564 มี ไข้ ไอ น้ำมูก ผู้ป่วยรายที่ 27 ผู้ป่วย เพศชาย อายุ 53 ปี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว( สามีรายที่ 26) ภูมิลำเนา อ.เมืองเลย จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง 3 สัปดาห์ก่อนป่วยเดินทางไปเที่ยวภูเก็ตและกลับจังหวัดเลย 7 เม.ย.2564 และอยู่บ้านและที่ทำงานในอำเภอเมืองเลย ผู้ป่วยมีอาการ วันที่ 15 เม.ย.2564 เริ่มมีอาการ ไข้ต่ำๆ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว
ผู้ป่วยรายที่ 28 ผู้ป่วย เพศ หญิง อายุ 3 ปี 7 เดือน ภูมิลำเนา อ.ภูหลวง จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง เป็นบุคคลในครอบครัวผู้ป่วยยืนยันรายที่ 24 จังหวัดเลย และสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันที่ไม่มีอาการ ผู้ป่วยรายที่ 29 ผู้ป่วย เพศหญิง อายุ 16 ปี ภูมิลำเนา อ.ภูหลวง จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง เป็นบุคคลในครอบครัวผู้ป่วยยืนยันรายที่ 24 จังหวัดเลย และสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันที่ กทม.(ยาย น้า) ผู้ป่วยรายที่ 30 ผู้ป่วย เพศหญิง อายุ 17 ปี ภูมิลำเนา อ.ภูหลวง จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง พูดคุยกับผู้ป่วยยืนยันราย กทม.กันนานเกิน 5 นาที โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย รายที่ 31 ผู้ป่วย เพศหญิง อายุ 89 ปี ภูมิลำเนา อ.ภูหลวง จ.เลย เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ วันที่ 22 เม.ย. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง นั่งรถยนต์ส่วนบุคคลร่วมกับผู้ป่วยยืนยัน ที่กทม. ไม่มีอาการป่วย ไอ ณ วันนี้ จ .เลย มียอดผู้ติดเชื้อโควิดระลอกเดือน เม.ย.2564 รวม 31 ราย หายแล้ว 4 ราย กำลังรักษา 27 ราย ส่วนข้อมูลตั้งแต่ 3 ม.ค.2563 รวมทั้งสิ้น 43 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
นพ.สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเคสที่ ต.ภูหอ อ.ภูหลวงนั้น มีลักษณะจะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลายราย ล่าสุด ส่งตรวจไป 21 ราย พบเชื้อ 5 ราย ยังรอผลตรวจอีก 24 ราย โดยขณะนี้ ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และค้นหาผู้ที่อาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มข้น โดยการปิดบางส่วนของหมู่บ้าน โดยรอบบ้านของผู้ป่วย และตั้งด่านสแกนคนเข้าออกหมู่บ้านแล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่เตียงรองรับผู้ป่วยขณะนี้ ยังคงมีเพียงพอ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 199 เตียง เหลือเตียงว่าง 149 เตียง ซึ่งอยากให้ทุกภาคส่วนสบายใจ เพราะทางการแพทย์ สามารถรองรับสถานการณ์ได้ และมีทรัพยากรที่เพียงพอ
ด้านนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ระบุว่า จากการพูดคุยหารือกับทางทีมแพทย์ ขณะนี้สถานการณ์จังหวัดเลยยยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพราะจากการคาดการณ์พบว่า หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 16 เมษายน 2564 ไป 10 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 26 เมษายน 2564 ถ้าสถานการณ์จะดีขึ้น ตัวเลขผู้ป่วยลดลง แสดงให้เห็นว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจากตัวเลขผู้ป่วยขณะนี้จังหวัดเลยยังเป็นพื้นที่สีส้มยังไม่เป็นพื้นที่สีแดง เพราะผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ย้ำว่า ยังไม่มีมาตรการปิดจังหวัด แต่จะใช้มาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ ย้ำว่าให้ชาวจังหวัดเลยปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข โดยเฉพาะมาตรการการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตาม ถ้าไม่สวมใส่อาจะขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค รวมถึงมาตรการรายงานตัว กรณีผู้ที่มาจากต่างจังหวัดต้องรายงานตัว ทั้งนี้ ยอมรับ อาจมีบางรายไม่รายงานตัว ดังนั้นหลังจากนี้อาจจะมีการหารือวางมาตรการลงโทษผู้ไม่เข้ามารายงานตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบราชการที่จะพาทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้