21 เมษายน 2564 ภายหลังจากเรื่องราวของ นายพุทธะ หรือ ที่ชาวบ้านผู้ที่ศรัทธารู้จักกันในนาม ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล หรือปู่องค์ดำ ผู้ที่อ้างตัวมีญาณวิเศษ สามารถทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากกรรมต่าง ๆ ได้ แม้กระทั่งหายจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 เป็นผู้นำในการปฏิบัติธรรม จนมีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2558 ได้เคยมาพักอาศัยอยู่ที่ที่ดินสาธารณะ ริมฝั่งหนองน้ำสาธารณะบ้านเดียงตะวันตก หมู่ที่ 3 ตำบลเวียงเหนือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็มาพัก เพียง 2 3 วัน ก็ออกเดินธุดงค์ไป แต่ต่อมาก็ได้มาปักหลักตั้งที่พักสงฆ์ขึ้นเอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล หรือปกครองอำเภอกันทรลักษ์ แต่อย่างใด
อาศัยความศรัทธาของประชาชน ได้เข้ามาอยู่พักอาศัยเลย และที่สำคัญได้ทำการก่อสร้างวัตถุมงคล พระพุทธรูป รูปหล่อ รูปปั้นมากมายขึ้น โดยเฉพาะรูปหล่อของตัวนายพุทธะ เอง เพื่อให้คนมากราบไหว้ ประกอบพิธีล้างเท้า พร้อมกับให้ทุกคนที่มาปฏิบัติธรรมได้นำน้ำที่ล้างเท้าตนไปดื่มกิน รดศีรษะ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ที่จะต้องสูญเสียแหล่งสวนสาธารณะไปให้เป็นที่พักสงฆ์ ได้ทำการออกมาคัดค้าน ประกอบกับมีการพูดจาหนาหูว่า ตัวนายพุทธะ เอง ได้แอบมีเพศสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับสาวที่มาปฏิบัติธรรม แม้สาวเจ้าคนดังกล่าวจะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม จนเป็นที่มาของการออกมาขับไล่นายพุทธะ ให้ออกไปจากพื้นที่ศาลา สวนสาธารณะของชุมชน บ้านเดียงตะวันตก นี้เมื่อปี พ.ศ.2560
นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และ นายศิริปัญญา คันทนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านเดียงตะวันออก และบ้านเดียงตะวันตก ตำบลเวียงเหนือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าพื้นที่ไปตรงบริเวณ ศาลาสวนสาธารณะ หนองเวียง ซึ่งเป็นพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลเดียงเหนือ ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ ก่อนที่ นายพุทธะ หรือ ที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม " ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล" ที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ แต่จีวรจะเป็นที่ดำอมน้ำเงินเข้ม มาพักปักกรดนำพาพี่น้องประชาชนผู้ศรัทธาปฏิบัติธรรม อ้างตนเป็นผู้วิเศษ สามารถรับรักษาโรคทางกาย ทางจิตใจได้หาย แม้กระทั่งโรคโควิด-19 มีผู้ที่เชื่อก่อนได้นำเงินมาร่วมบริจาค มาถวาย มาร่วมสายบุญก่อสร้างพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมทั้งองค์เทพ หรือแม้กระทั่ง การหล่อก่อสร้าง รูปเหมือนของ ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล เพื่อให้คนมากราบไหว้ขอพร ซึ่งเมื่อ ปี พ.ศ.2560 ได้ประกอบพิธีสรงน้ำ เนื่องในวันสงกรานต์ แล้วใช้น้ำที่ทุกคนมาล้างเท้าขอบุญกุศล ให้ทุกคนที่มาปฏิบัติได้ดื่ม อ้างว่ามีพุทธคุณ จะทำให้ทุกคนหมดทุกข์ หมดโศก หมดโรคภัยต่าง ก่อนที่จะมีข่าวออกมาว่า ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล แอบมีเพศสัมพันธ์กับสาวที่มาปฏิบัติธรรม แม้ว่าสาวคนนั้นจะมีสามีอยู่ที่บ้านแล้วก็ตาม ทำให้ทุกคนเริ่มเสื่อมศรัทธา และขับไล่ออกจากศาลา สวนสาธารณะแห่งนี้ไป ก่อนที่ไปพบว่าไปรตั้งอาศรมอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่ศรัทธาของบางคนในนามหลวงปู่องค์ดำหรือ ปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล
เพื่อพิสูจน์ความจริง นางสุคนธ์ อินทร์โสภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ สาวที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนมีบุตรสาวด้วยกัน ขณะนี้อายุ 4 ขวบแล้ว เพราะก่อนหน้านี้สาวเจ้าได้ออกมาบอกว่า มีบุตรกับ ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล โดยในเสียงโทรศัพท์ที่คุยกัน มีใจความ ว่า ผู้ใหญ่อยากให้เจ้า หมายถึง สาวที่มีบุตรกับพุทธะ นำบุตรไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าใช่บุตรเขาจริงไหม ซึ่งสาวเจ้าได้ตอบว่า ไม่อยากยุ่งแล้ว กลัวภัยมาถึงตัว เพราะตอนนี้ทราบว่า นายพุทธะ ได้หนีออกจากอาศรม ที่อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ ไปแล้ว กลัวมาทำร้ายตนและลูก ไม่อยากไปยุ่งแล้ว เพราะที่ผ่านๆ มาตลอดระยะเวลาที่ตั้งท้อง 9 เดือน จนคลอดออกมา เป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว เขาไม่เคยมาเหลียวแล ส่งเสียเลี้ยงดูลูกเขาเลย ตนไม่อยากยุ่งแล้ว ปล่อยให้จบๆ ไป ตนก็จะตั้งหน้าทำมาหากินตามประสาตนไป ที่ผ่านมาก็ปล่อยให้มันจบไป ที่ตนเคยบอกว่า มีลูกกับ ปู่พุทธะ องค์เทพสุริยะจักรวาล ก็ปล่อยให้จบไป ไม่อยากยุ่งแล้ว เพราะตอนแรกที่พูดเพราะอยากจะให้เขามารับผิดชอบบ้าง แต่กลายเป็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โต วันนี้ขอยุติเรื่อง ไม่เอาความเขาแล้ว แล้วแต่เขาจะได้รับกรรมของเขาไป สาวเจ้าบอกมาทางโทรศัพท์มือถือของ ผู้ใหญ่