svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

กรมพินิจฯ คุมเข้มพื้นที่เสี่ยง-ฟันวินัยปกปิดไทม์ไลน์

20 เมษายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ ออกมาตรการขั้นสูงสุดป้องกันโควิดระลอก 3 คุมเข้มห้ามจนท.ไปพื้นที่เสี่ยงฟันวินัยคนปกปิดไทม์ไลน์ พร้อมสั่งปิดศูนย์ฝึกฯ-สถานพินิจฯ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าทุกกรณี

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอก 3 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกระจายไปทุกจังหวัด กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จึงได้ประกาศให้บุคลากรปฏิบัติงานภายในบ้าน (Work from home) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนนั้นล่าสุด พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีความห่วงใยถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอก 3 จึงสั่งกำชับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ปฏิบัติตาม 5 ข้อ ดังนี้ 1. ให้เจ้าหน้าที่งดออกนอกพื้นที่หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงทุกกรณี ยกเว้นมีความจำเป็นเร่งด่วน 2. ให้หน่วยงานจัดซื้อและจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามความเหมาะสม และแจ้งผลการดำเนินงานมายังกรมฯ 3. บุคคลภายนอก งดเว้นการเข้าทำกิจกรรมในศูนย์ฝึกและอบรมฯ ทุกกรณี รวมถึงการจัดส่งอาหารสด หรือห้ามมิให้บุคคลภายนอก หรือผู้ทำหน้าที่ฝึกสอนเด็กและเยาวชนเข้ามาภายในเขตควบคุมด้วย 4. เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ที่ไม่มีภาระหน้าที่ภายในสถานควบคุม ให้งดเข้าสถานควบคุมทุกกรณี 5. เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในสถานที่ควบคุมต้องทำรายงานไทม์ไลน์ประจำวัน เป็นรายชั่วโมงตามแบบรายงานที่กรมฯกำหนด หากเจ้าหน้าที่จงใจปกปิดไทม์ไลน์ของตนเองจะใช้มาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาด


กรมพินิจฯ คุมเข้มพื้นที่เสี่ยง-ฟันวินัยปกปิดไทม์ไลน์


พ.ต.ท. วรรณพงษ์ฯ เปิดเผยอีกว่า ได้เน้นย้ำให้หัวหน้าหน่วยงานทุกคนทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาในรายละเอียด สร้างการรับรู้ในการระวังป้องกันอย่างสูงสุด โดยเฉพาะสิ่งใดที่ห้ามและเกิดความเสี่ยงให้งดเว้น และให้ผู้อำนวยการมีอำนาจในการบริหารจัดการบุคลากรอย่างเต็มที่ หากต้องมีการกักตัวเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังโรค หรือดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่ฝ่าฝืน ซึ่งมาตราการเข้มงวดนี้มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่ 16 เม.ย. - 15 พ.ค. 2564 " ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกรมฯ ปฏิบัติตนเสมือนว่าทุกพื้นที่เป็นพื้นที่สีแดง ยกระดับการระวังภัยขั้นสูงสุด และปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด หากพบเจ้าหน้าที่มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือมีคนใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ติดเชื้อให้แจ้งผู้อำนวยการและกักตัวสังเกตอาการทันที โดยให้ผู้อำนวยการหน่วยงานในสังกัดแต่ละแห่ง พิจารณาเตรียมพื้นที่เปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสนาม " อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าว 

logoline