อย.อนุญาตเอกชนนำเข้าและขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดแล้ว 3 รายอยู่ระหว่างประเมินอีก 1ราย
อย.เผยอนุญาตเอกชนนำเข้าและขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดแล้ว 3 รายอยู่ระหว่างประเมินอีก 1ราย เผย มีเอกชนติดต่อขอนำเข้าและขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 จำนวน 14 ราย ย้ำ ภารกิจหลัก คือ ปกป้องคุ้มครองสุขภาพของประชาชนให้สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ไม่มีหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงวัคซีน
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีรายการข่าวทางสื่อโทรทัศน์แห่งหนึ่งนำเสนอข้อมูลพาดพิงการดำเนินงานของ อย. เรื่องการกีดกันการนำเข้าวัคซีนและความไม่โปร่งใสในการขออนุญาตขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น ขอชี้แจงว่า อย. มีภารกิจในการปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของประชาชน เพื่อให้สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพและปลอดภัย โดยดำเนินการควบคุมภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภารกิจดังกล่าว อย. ไม่มีหน้าที่ในการจัดซื้อหรือดำเนินการค้าขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ๆ
สำหรับกรณีวัคซีนโควิด-19 ก็เช่นกัน อย. เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่พิจารณาคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิผลของวัคซีนเพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนที่มีมาตรฐานในระดับสากล โดยที่ผ่านมาองค์การเภสัชกรรมหรือ อภ. เป็นหน่วยงานที่จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทผู้ผลิตเพื่อนำเข้ามาใช้ในประเทศส่วนหนึ่ง โดย อย. ไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 และเชิญชวนให้มาขึ้นทะเบียน
พร้อมกันนี้ยังได้จัดการประชุมชี้แจงขั้นตอนการนำเข้า โดยมีผู้แทนจากภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เข้าร่วมประชุม ซึ่งขณะนี้มีผู้มาติดต่อเกี่ยวกับการนำเข้าและขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 จำนวน 14 ราย แต่มีการยื่นเอกสารให้พิจารณาเพียง 4 ราย โดยได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ราย และอยู่ระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน 1 ราย นอกนั้นเป็นบริษัทและโรงพยาบาลเอกชนที่มาปรึกษาและขอรับคำแนะนำในการขึ้นทะเบียน 10 ราย โดยยังไม่มีการมายื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ อย. จะเชิญบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ทุกบริษัทมาประชุมชี้แจง พร้อมเชิญชวนให้มาขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วที่สุด
ในส่วนของการดำเนินงานด้านการขออนุญาตขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพกับ อย. นั้น ปัจจุบัน ได้เปิดระบบการขออนุญาตแบบออนไลน์โดยผ่านระบบ E - submission ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นขออนุญาตขึ้นทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นช่องทางในการยื่นขออนุญาตที่สะดวกสบาย ไม่ล่าช้า และมีความโปร่งใส อย. ไม่มีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพในสังกัด ผู้ใดที่มายื่นขออนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมพิจารณาทุกราย
เลขาธิการฯ อย. กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า อย.ดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยที่ประชาชนจะได้รับจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง