เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 19 เมษายน 2564ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขรายงานสถานการณ์ COVID-19 ระลอกเดือนเมษายน 2564 เพิ่มขึ้น 116 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,349 รายผู้ติดเชื้อรักษาหายจำนวน 43 คน คงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,306 ราย
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19อย่างเคร่งครัดโดยหวังว่าเชียงใหม่จะเป็นเมืองที่ปลอดเชื้อได้ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้สำหรับประชาชนที่มีความสงสัยติดเชื้อ สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19ได้มีศูนย์ประชุมชนและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาหรือที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าขณะนี้เริ่มมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามรักษาหายแล้วโดยได้เริ่มทยอยให้กลับบ้านได้ โดยคาดว่าภายใน 1-2วันจำนวนผู้ป่วยจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยต่อวันส่วนการจัดเตรียมโรงพยาบาลทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดแยกผู้ป่วยตามอาการโดยใช้สีเป็นตัวกำหนด ผู้ป่วยสีแดง เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ผู้ป่วยสีส้มและสีเหลือง มีอาการหนักรองลงมาตามลำดับและผู้ป่วยสีเขียวเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการโดยโรงพยาบาลหลักในจังหวัดเชียงใหม่จะรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สีแดงและสีส้ม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ส่วนสีเหลืองและสีเขียวให้รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม
ทั้งนี้ผู้ป่วยสีแดงลีส้มหากรักษาจนอาการดีขึ้นแพทย์ประเมินเป็นผู้ป่วยสีเขียวต้องย้ายออกจากโรงพยาบาลหลักเข้ารักษาตัวต่อในโรงพยาบาลสนามเพื่อหมุนเวียนให้โรงพยาบาลหลักมีพื้นที่รองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักต่อไปได้จึงขอความร่วมมือผู้ป่วยสีแดงที่แพทย์ประเมินแล้วว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงและให้เปลี่ยนเป็นผู้ป่วยสีเขียว ให้ย้ายเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเพื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเข้ารับการรักษาตัวได้ในโรงพยาบาล
นอกจากนั้นหากผู้ป่วยสีเขียวที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามและต้องการย้ายไปอยู่ใน hospitel ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้วว่ามีความพร้อมที่รับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มระดับสีเขียวเข้าไปรักษาตัวทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์โรงพยาบาลสนาม โดยผู้ป่วยต้องรับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่ายเองซึ่งขณะนี้ในเชียงใหม่มี hospitel พร้อมที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้แล้ว