สงสารหนุ่มคบสาวทางออนไลน์เจอหลอกสูญ 2 หมื่น

 18 เมษายน 2564    นายชัย นามสมมุติ อายุ 30 ปี หนุ่มทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ศุภกร แก้วบัวดี พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่าเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2464 เวลาประมาณ 08.02 น. ตนได้รับโทรศัพท์จาก น.ส.ณี นามสมมุติ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นแฟนของตน ว่าได้เดินทางมาจาก จ.นนทบุรี มาถึง บขส.สุรินทร์แล้ว จากนั้นได้มีบุคคลพาไปกักตัวเพราะกลัวติดโรคโควิด-19 และแจ้งว่าบุคคลที่พาไปกักตัวได้เรียกเงิน 4,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.ณี นามสมมุติ แต่ตนไม่ทราบว่าถูกกักตัวอยู่ที่ใด ซึ่งตนฟังแล้วไม่เข้าใจไม่ทราบข้อเท็จจริง และเกรงว่า น.ส.ณี นามสมมุติ จะได้รับอันตราย จึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหา

จากนั้นนายกฤษณุ เหลืองพิบูลย์กิจ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ และนายปภพ ขอไชย ปลัดอำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองแต่ละจุดได้มาที่ สภ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อให้นายชัย นามสมมุติ ได้ดูตัวพร้อมกับช่วยกันสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายชัย นามสมมุติ จึงได้ทราบว่านายชัย นามสมมุติ น่าจะถูก น.ส.ณี นามสมมุติ หลอกเพราะว่าเจอกันทางโซเชียลและได้แลกไลน์กัน โดยไม่เคยได้เห็นหน้าพบเจอตัวจริงกันเลย โดยน.ส.ณี นามสมมุติ นั้นจะให้นายชัย นามสมมุติ โอนเงินจ่ายค่าต่าง ๆนานา ให้โดยรวมกันแล้วกว่า 20,000 บาท ซึ่งครั้งสุดท้าย น.ส.ณี นามสมมุติ นั้นได้บอกกับนายชัย นามสมมุติว่า จะมาหาญาติที่ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ จึงได้นัดเจอกันที่ บขส.สุรินทร์ โดนทางนายชัย นามสมมุติ ได้เดินทางมาล่วงหน้าก่อน พอนายชัย นามสมมุติ มาถึง บขส.สุรินทร์ ก็ได้โทรหา น.ส.ณี นามสมมุติ ซึ่งน.ส. ณี  ได้บอกกับนายชัยว่าถูก จนท.จุดคัดกรองกักตัวเพราะกลัวติดโรคโควิด-19 และได้เรียกเงิน 4,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.ณี นามสมมุติ ตนจึงสงสัยพร้อมกับได้ติดตามยังไงก็ไม่เจอกลัวแฟนสาวจะมีอันตราย จึงได้รีบเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายอำเภอเมืองสุรินทร์,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เช็คประวัติ น.ส.ณี นามสมมุติ พร้อมทั้งได้ให้นายชัย นามสมมุติ ติดต่อไปหา น.ส.ณี นามสมมุติ อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย พร้อมกับ จนท.ได้เช็คไปยังสถานีขนส่งทุกสถานี ก็ไม่มีชื่อนี้โดยสารมาที่ จ.สุรินทร์ อีกด้วย

นายชัย นามสมมุติ กล่าวว่า ตนนั้นได้รู้จักรกับ น.ส.ณี นามสมมุติ ทางโซเชียล มาเป็นเวลา 1 เดือน โดยคบหาเป็นแฟนกันทางโซเชียล ซึ่งน.ส.ณี นามสมมุติ นั้น จะบอกตนว่าเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบต้องใช้หนี้ 5,000 บาทบ้าง 3,000 บาทบ้าง 4-5 ครั้ง โดยรวมแล้วก็ประมาณกว่า 20,000 บาท ช่วงนั้นติดต่อกันตลอด ตนทำงานก็ต้องไปยืมเงินมาให้กับ น.ส.ณี นามสมมุติ เอาไปใช้หนี้ มาครั้งนี้ตนพอรู้แล้วว่าตนถูกหลอก จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะหาคู่ผ่านสื่อออนไลน์ให้พิจารณามากๆ และควรที่จะเจอตัวจริงกันก่อนหรืออาจจะลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสักระยะก่อนจะเชื่อใจและโอนเงินให้