svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เผยตัวเลขล่าสุดตร.ติดเชื้อเพิ่ม124 ราย ยัน ไม่ได้สั่งกักตัวตำรวจทั้งสน.

16 เมษายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยตัวเลขล่าสุดตำรวจติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 124 ราย กักตัวกลุ่มเสี่ยงร่วม 500 ราย แจงไม่ได้สั่งกักตัวตำรวจทั้งสน. ย้ำปรับลดกำลังตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่เสียหายต่อการบริการของประชาชน

วันนี้(16เม.ย.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มข้าราชการตำรวจ สังกัด บช.น. ดังนี้ปัจจุบันได้รับรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 124 ราย และกักตัวกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จำนวน 488 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 16 เม.ย.64 เวลา 10.00 น.) โดยที่ตรวจพบเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้มีการตรวจเชิงรุกให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น รวมทั้งครบระยะเวลาที่เชื้อมีการฟักตัว

ทั้งนี้ จากกรณีที่ สน.มีนบุรี ตรวจพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 นาย และมีหนังสือให้ข้าราชการตำรวจทุกนายกักตัว เพื่อรอรับการตรวจหาเชื้อ รวมถึงกรณีที่ สน.อุดมสุข และ สน.ลาดพร้าว มีคำสั่งแจ้งรายชื่อผู้มีความเสี่ยงสูง นั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า ไม่ได้มีคำสั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สน. โดย สน.อุดมสุข พบผู้ติดเชื้อ 2 นาย สน.ลาดพร้าว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนการกักตัว บช.น. ได้มีหนังสือกำชับการปฏิบัติตามแนวทางที่กรมควบคุมโรคกำหนด ในเรื่องของการพิจารณาว่าผู้ใดมีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องทำการกักตัว หรือผู้ที่มีความเสี่ยงไล่เรียงลงมา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ กลุ่มเฝ้าระวัง หรือไม่มีความเสี่ยง เพื่อให้การออกคำสั่งกักตัวเป็นไปตามแนวทางที่ภาครัฐกำหนด เท่าที่จำเป็น สามารถบริการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ให้บริการประชาชนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้แนะนำให้สังเกตอาการ หลีกเลี่ยงการไปที่ชุมชน และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอื่นๆ


นอกจากนี้ยังได้กำชับการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ภาครัฐกำหนดโดยเคร่งครัด เช่น ปฏิบัติตามหลัก D-M-H-T-T การ Work from home การปฏิบัติงานแบบเหลื่อมเวลา การจัดผลัดการปฏิบัติหน้าที่ให้ครอบคลุมพื้นที่ ระยะเวลา ความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยให้ปรับลดกำลังพลได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการและการบริการประชาชน และจะต้องสามารถติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ก่อนการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งจัดสถานที่ให้มีเครื่องป้องกัน เช่น เฟสชิลด์ แผ่นกระจกกั้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชน รวมทั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ หากสน.ใดมีปัญหาในด้านกำลังพล ให้ ผู้บัญชาการลงมาบริหารจัดการภายในหน่วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

logoline