อนามัยโลกชี้ ยอดป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มสูงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7

องค์การฯ ยังระบุว่ายอดผู้ป่วยที่เสียชีวิตเพิ่มสูงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยขยับขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่มากกว่า 76,000 ราย
สถานการณ์การระบาดในอินเดียรุนแรงอย่างยิ่ง โดยมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 873,296 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 51 ขณะที่สหรัฐฯ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 อยู่ที่ 468,395 ราย และมีบราซิลตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดผู้ป่วยรายใหม่ 463,092 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พุ่งสูงในภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิกตะวันตก โดยยอดผู้เสียชีวิตในแปซิฟิกตะวันตกพุ่งทะยานถึงร้อยละ 189 ซึ่งฟิลิปปินส์มีสถิติสูงเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,321 ราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าถึงร้อยละ 400
นอกจากนี้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์หลายตัวยังคงแพร่ระบาดอยู่ในหลายประเทศ โดยเชื้อไวรัส บี117 (B117) ที่พบเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร แพร่ระบาดอยู่ใน 132 ประเทศ เชื้อไวรัสบี1351 (B1351) ที่พบเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้ แพร่ระบาดใน 82 ประเทศ และเชื้อไวรัสพี1 (P1) ที่พบเป็นครั้งแรกในบราซิล แพร่ระบาดใน 52 ประเทศ
องค์การฯ อ้างอิงการศึกษาที่เกี่ยวข้องที่แม้จะยังมีจำนวนจำกัด ว่าวัคซีนโรคป้องกันโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเผชิญกับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์  โดยยกตัวอย่างประสิทธิภาพการลบล้างฤทธิ์หลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ลดต่ำต่อเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์บี117 (B117) และ "ประสิทธิภาพที่ลดต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด" ต่อเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์บี1351 (B1351)
การศึกษาข้างต้นยังรายงานพบ "หลักฐานของประสิทธิภาพการลบล้างฤทธิ์ที่ลดต่ำอย่างชัดเจน" ต่อเชื้อไวรัสชนิดพี1 หลังได้รับวัคซีนจากแอสตราเซเนกา โมเดอร์นา และไฟเซอร์-ไบออนเทค
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ องค์การฯ ได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของมาตรการต่างๆ อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยและรักษาความสะอาดของมือ เนื่องจากเรายัง "อยู่ในจุดวิกฤตของการระบาดใหญ่"