มันเหลืออดเพื่อนบ้านต่างวัยทะเลาะหนัก

บ่ายวันที่ 13 เมษายน  2564  นางสำราญ ไตรโยธี อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่9บ.บะหว้า ต.บะหว้า อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพนแพง อ.อากาศอำนวย เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายทนงค์ คำต่างเมือง อายุ27ปี เพื่อนบ้านรุ่นคราวหลาน ที่ก่อความรำคาญและทำลายทรัพย์สินเสียหาย จนเกิดความหวาดกลัว ต้องพาหลานอีก2คน หลบไปนอนที่บ้านญาติ หลังถูกก่อกวนอย่างหนัก


ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่12เมษายน2564นายทนงค์ หรือ โต้ ได้ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่หลังคากระเบื้องจนแตกเสียหาย พร้อมมีการตะโกนโวยวายข่มขู่คนในครอบครัว ทำให้คุณยายสำราญ ต้องพาหลานเข้าแจ้งความให้นำนายโต้ มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยายสำราญ กล่าวด้วยน้ำตาถึงความทุกข์ว่า ตั้งแต่ปี2561ตอนนั้นมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันระหว่างครอบครัว แต่สาเหตุใครก่อเรื่องก่อนไม่แน่นอน แต่คำบอกเล่าของยายสำราญ บอกว่า นายโต้ ได้ขว้างขวดเบียร์เข้ามาในบ้านจนเศษแก้วไปปักหน้าผากหลาน ได้รับบาดเจ็บ และนายโต้ ยังใช้อาวุธมีดมาทำร้ายคนในครอบครัวของยายสำราญ อีกด้วย แต่เรื่องขณะนั้นมีการเข้าไกล่เกลี่ยจนทั้งสองฝ่ายไม่เอาเรื่อง

ยายสำราญ บอกว่า น่าจะเป็นสาเหตุให้นายโต้ ผูกใจเจ็บ และคอยหาเรื่องมาตลอด จนยายสำราญ ต้องใช้แผ่นสังกะสี มาต่อเติมรั้วให้สูงขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกัน แต่ก็ถูกนายโต้ เมื่อดื่มสุรามา จะใช้หนังสติ๊กยิงใส่จนเป็นรู ส่วนใหญ่จะชอบหาเรื่องในช่วงกลางดึกทุกวัน ทำให้คนในครอบครัว รู้สึกผวาทุกครั้งที่มีเสียงดังเกิดขึ้น และทุกครั้งต้องโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุ จนเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ผ่านมา ยายสำราญ ไม่เคยเข้าแจ้งความ มีเพียงการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้เท่านั้น แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าทุกครั้ง และมีการข่มขู่ จึงเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีนายโต้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้ข้อมูลว่า เป็นข้อพิพาทระหว่างเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ต้องคอย ไประงับเหตุทุกครั้ง ไม่ได้ละเลย ทุกครั้งไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ นายโต้ ก็จะหลบหนีไปก่อน และหลบซ่อนตัว เมื่อตำรวจกลับไป นายโต้ ก็จะย้อนกลับมา และก่อเหตุอีกครั้ง แต่สาเหตุที่ตำรวจ ไม่จับกุมนั้น เพราะไม่มีคนไปร้องโทษกล่าวทุกข์ ทำให้ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาอะไรได้ เพราะไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า แต่ในส่วนของนายโต้ ก็ทราบว่ามีปัญหาทางจิตด้วย แต่ไม่มีญาติมาดูแล ทำให้อยู่บ้านคนเดียว แต่การเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ก็มีข้อมูลบ้าง แต่เมื่อเข้าไปตรวจค้นไม่พบอะไร มีเพียงเกี่ยวพันในฐานะผู้เสพ ก็ได้เข้าสู่กระบวนการ จึงอยากให้เข้าใจการทำงานของตำรวจด้วยว่า ในพื้นที่รับผิดชอบ ต้องแบ่งกำลังไปดูแลรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่2ตำบล21หมู่บ้าน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีน้อย เพราะเป็นสถานีตำรวจเล็กๆ ทำให้บางครั้งการเข้าไประงับเหตุ กรณียายสำราญ ก็อาจจะช้าไป แต่ตำรวจไม่ได้ละเลย

แต่ครั้งนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายโต้ ทางตำรวจก็ได้มีการไปนำตัวนายโต้ มารับทราบข้อหา เบื้องต้นแจ้งข้อหาการทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นก็ต้องมีการรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน และต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่จะให้ควบคุมตัวมากักขังโดยไม่มีข้อหา ก็ไม่สามารถทำอะไรได้