"อริย์ธัช "ร้องแทน ปชช.จี้ กทม. เร่งแจง"คลัสเตอร์ทองหล่อ"

"ต้องตั้งคำถามว่าภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรการควบคุมโรคของ กทม. ทำไมจึงยังมีสถานบันเทิงหลายแห่งที่มีพนักงานและจำนวนลูกค้ามหาศาลไปรวมกันได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับว่าควรเปิดให้ธุรกิจเหล่านี้ดำเนินกิจการหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้หรือไม่ เพราะไม่ขัดข้องในเรื่องนี้และสนับสนุนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีรายได้เข้ามาหมุนเวียนธุรกิจ แต่ปัญหาอยู่ที่เรื่องการกำกับดูแลสถานบันเทิงต่างๆไม่ให้เกิดความแออัดจนกลายเป็นความเสี่ยง เพราะจากภาพที่ปรากฏทั่วไปทั่วไปบนหน้าสื่อ เช่น กรณีคริสตัลผับ จะเห็นว่ามีพนักงานสาวคอยดูแลผู้มาเที่ยวแบบใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวและแทบไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการรักษาระยะห่างเลย คำถามคือ กทม. ไม่รู้ว่ามีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจรงหรือ คิดว่าประชาชนต้องการรับรู้เหตุผลในการผ่อนปรนหรือมีเหตุผลอื่นที่ทำให้ย่อหย่อนจนเกิดการระบาดขึ้น ซึ่งได้ส่งผลกระทบไปถึงสถานบันเทิงอื่นๆที่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดเพราะต้องปิดตัวไปด้วย"

นายอริย์ธัช ยังระบุอีกว่า ผู้ว่ากทม.ในฐานะผู้บริหารสถานการณ์วิกฤตไม่ใช่มีหน้าที่แค่คอยสั่งปิดกิจการเมื่อเกิดเรื่องแล้วแต่มีหน้าที่กำกับดูแลคอยควบคุมกิจกรรมต่างๆให้ดำเนินไปตามมาตรการควบคุมโรคทั้งของรัฐและของกทม.เพราะผลลัพธ์ของความย่อหย่อนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างดังที่มีคำสั่งปิดสถานบันเทิงและธุรกิจกลางคืนไปแล้วถึง3เขตโดยไม่มีมาตรการเยียวยาใดๆตามมาอยากเรียกร้องในเรื่องนี้เช่นกันว่าการรับมือการสถานการณ์โควิดผู้บริหารเมืองต้องมองอย่างเข้าใจจะสักแต่ออกคำสั่งโดยไม่รับผิดชอบผลที่เกิดเพียงเพื่อให้ดูเหมือนบริหารสถานการณ์แล้วไม่ได้เพราะคำสั่งแบบนี้ทำให้คนจำนวนมากรับผลกระทบทันทีไม่ว่านักร้องนักดนตรีนักเต้นพนักงานเสริฟพนักงานรายวันรวมไปถึงผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจะรับไม่ไหวแล้วอย่ามองว่าแค่คนไม่กี่คนที่ต้องเสียสละแต่ต้องมองถึงความรับผิดชอบที่จากการออกคำสั่งด้วย