นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ แสดงความกังวลในคดีวิคตอเรียซีเครท ที่อัยการสูงสุด ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนต่อการมีความเห็นในคำร้องขอความเป็นธรรมของ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการติดตามตัวนายกำพล ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เนื่องจากยังไม่พบว่ามีหมายแดงปรากฎอยู่ในเวบไซต์อินเตอร์โพลล์
สำหรับ คดีวิคตอเรียซีเครท เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ ติดตามคดีและร้องเรียนต่อ นายกรัฐมนตรี สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานป.ป.ช. คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) มากว่า 3 ปี จนปัจจุบันกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ยังไม่สามารถนำตัวเจ้าของวิคตอเรียซีเครท มาเข้ามาสู่การพิจารณาในชั้นศาลได้
นายรณสิทธิ์ บอกว่า ทราบมาว่านายกำพล ได้ไปร้องขอเพื่อใช้สิทธิ์ในการถอนหมายจับ หรือถอนฟ้อง ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะกระทำเช่นนั้นแต่เชื่อว่าจากการรวบรวมหลักฐานของเจ้าหน้าที่รัฐ มีหลักฐานความเชื่อมโยงไปถึง นายกำพล และที่สำคัญคือ การที่ศาลอุทรณ์ กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้คดีวิคตอเรีย เป็นคดีค้ามนุษย์ เพราะฉะนั้น เส้นทางการเงินของสถานบริการวิคตอเรียฯ เชื่อได้ว่าเป็นเงินจากการค้ามนุษย์ หากมีการทำธุรกรรมไปถึงบุคคลใด จะถือว่ามีส่วนในการค้ามนุษย์ ด้วย
ดังนั้น เชื่อว่าคดีของวิคตอเรียจะส่งผลต่อการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษณ์ในประเทศของประชาคมโลกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาได้พยายามที่จะตรวจสอบความเคลื่อนไหวในคดี ซึ่งที่ผ่านมาคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ทางรัฐบาลไทยจึงไม่สามารถที่จะนำคดีสถานบริการวิคตอเรีย ซีเคร็ท เข้าไปรวมกับผลงานของประเทศได้
น.ส.ชลีรัตน์ ทิมบุตร ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี เปิดเผยว่า เครือข่ายค้ามนุษย์ 13 องค์กร มีความกำลังว่าตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ในกรณีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ทำให้เกรงว่าจะซ้ำรอยกรณีภรรยา และบุตรชายนายกำพล คือ นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ที่อยู่ในสำนวนคดีเดียวกัน แต่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง