"ซูเปอร์โพล" ชี้ ประชาชนกังวลม็อบ 4 เมษาฯ

สำนักวิจัย "ซูเปอร์โพล" เสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง "ม็อบ 4 เมษาฯ กับความกังวลประชาชน" โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,081 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา

ผลสำรวจที่สำคัญ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 96.8 มองว่า ม็อบ 4 เมษายน ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และเพื่อแหล่งทุนจากต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ประเมินว่า ม็อบ 4 เมษายน จะสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ และทำลายความปกติสุขของประชาชน

กลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 90 ยังแสดงความเป็นห่วงว่า ม็อบ 4 เมษายน จะเป็นม็อบต่อรองของคนที่โดนคดีต่างๆ แล้วใช้มวลชนเป็นอาวุธ ทั้งยังมีความเกี่ยวโยงกับคนแดนไกล และอาจมีความเคลื่อนไหวกระทบสถาบันหลักของชาติ

กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 94.5 ยังสนับสนุนให้ใช้กลไกสภาจัดการ ส.ส.ที่แสดงตัวสนับสนุนม็อบที่ก่อความเสียหายในบ้านเมือง มีเพียงร้อยละ 5.5 ที่ไม่สนับสนุน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างในสัดส่วนใกล้เคียงกันยังมองว่าม็อบทำลายโอกาสของประเทศ และทำลายความหวังของประชาชน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วงเปิดประเทศ

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการซูเปอร์โพล กล่าวว่า ประชาชนกำลังซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะทุกอย่างขาลงอยู่แล้วจากวิกฤตโควิด แต่มาเกิดม็อบ 4 เมษายนซ้ำเติมอีก ทำให้เศรษฐกิจที่กำลังจะเป็นขาขึ้นต้องรับผลร้าย โดยเฉพาะช่วงที่กำลังจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังโควิดซา

ผอ.ซูเปอร์โพล ยังมีข้อเสนอแนะต่อคน 3 กลุ่มคือ
กลุ่มแรก รัฐบาลต้องเร่งสร้างผลงานที่จับต้องได้ เห็นกันชัดๆ ในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ออกมาเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
กลุ่มที่สอง หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับม็อบ ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง ต้องเข้าถึงข้อมูลม็อบกลุ่มย่อยๆ ในกลุ่มใหญ่ เพราะม็อบมาจากหลากหลายกลุ่ม หลากหลายความต้องการ และรีบแก้ไขปัญหาให้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่มย่อย เพื่อส่งผลให้พลังของม็อบลดลง และท่องคาถาไว้ว่าต้องไม่ใช้ความรุนแรง
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มม็อบ 4 เมษายน ควรแสดงวิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ มากกว่าท่องคาถาแค่ว่า "ประยุทธ์ออกไป"