วันนี้(22 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพทหารไทยส่งข้าวสาร 700 กระสอบให้ทหารเมียนมา จนถูกวิจารณ์ว่าไทยสนับสนุนรัฐประหารในเมียนมา ว่า ภาพที่ออกมา จริงๆ แล้วเป็นคนละกรณีกันทั้งหมด ต้องย้อนกลับไปดูเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว พื้นที่ดังกล่าวมีฐานทหาร มีประชาชนชาวเมียนมา มาอยู่บนเส้นเขตแดน อยู่บนพื้นที่สูง จนมีการเจรจาผ่านกลไกที่มีอยู่ให้ขยับไปข้างล่างทั้งหมด ทำให้การสัญจรไปมาในฝั่งตรงข้ามเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่จึงมีการเข้ามาซื้อของในฝั่งไทย แต่ตกลงกันว่าต้องไปอยู่พื้นที่ข้างล่างให้หมด ซึ่งทางฝั่งเมียนมาก็ยินยอมในตรงนี้ แต่ขอสั่งอาหารจากฝั่งไทย ซึ่งเป็นเรื่องของมนุษยธรรม และความมั่นคงตามแนวชายแดน เพราะพื้นที่เขตแดนไม่ชัดเจน และการสั่งซื้อดังกล่าวเป็นการสั่งซื้อโดยตรงจากพ่อค้าแค่นั้น อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวต่อไป มันคนละกรณีกัน อย่ามาพาดพิง อย่ามาเกี่ยวข้องไปหมดว่าเราไปสนับสนุนอะไร
เมื่อถามถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายจากการประท้วงในเมียนมา ทางการเมียนมาได้มีการขอความช่วยเหลือมายังไทยหรือไม่ นายรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ก็เป็นเรื่องภายในของเมียนมา คงไม่ต้องมาปรึกษาเรา เพราะนี่คือกฎบัตรของอาเซียนกำหนดไว้ว่า ประเทศสมาชิกไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในซึ่งกันและกัน แต่อะไรที่เป็นความห่วงใยจากต่างประเทศก็มีการเตือนไป โดยเป็นมติของอาเซียนอยู่แล้ว ปัญหามันไม่เหมือนกัน ต้องมีกระบวนการบริหารของเขาเอง ทำอย่างไรจะปลอดภัย ทำอย่างไรจะสงบเรียบร้อย ตนคิดว่าเมียนมาต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว