"จตุพร" ติงนักการเมืองเสนอแก้ รธน.รายมาตรา-ยกเลิก สว.-ปฎิรูปศาล รธน. เป็นไปไม่ได้

เมื่อ 19 มี.ค. 2564 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk ย้ำความเชื่อมั่นว่า ถ้าทุกฝ่ายและประชาชนยึดมั่นสามัคคีรวมพลังไล่ "ประยุทธ์ ออกไป เพียงประเด็นจะแก้ รธน.ได้สำเร็จ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คือ ปัญหาของประเทศ 
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อแก้ รธน.มาตรา 256 ตั้ง สสร. ถูกรัฐสภาคว่ำวาระ 3 แต่ฝ่ายนักการเมืองขณะนี้จะพยายามเสนอยื่นแก้ รธน.เป็นรายมาตราอีกครั้ง โดยเฉพาะแก้ไขให้ยกเลิก สว. 250 คน ซึ่งตนเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ 
"การเสนอล่ารายชื่อยกเลิก สว.และปฎิรูปศาล รธน. เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มี สว. 84 เสียงลงมติในขั้นวาระ 1 รับหลักการให้ยกเลิกตัวเองออกจาก สว.หรอก อีกทั้งยังทำให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นเกมยัดกล่าวหาเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน" 
อีกอย่าง การกล่าวหาและเล่นเกมว่า การโหวตวาระ 3 เป็นการขัดคำวินิจฉัยของศาล รธน. นั้น ตนเห็นว่า คนที่เสนอญัตติในที่ประชุมรัฐสภาให้ลงมติวาระ 3 (นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้า พปชร.) ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน หากจะเล่นงานกันเช่นนี้ จึงหลุดสมาชิกกันทั้งสภาแน่ 
รวมทั้ง คำวินิจฉัยที่ไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติทำให้นักการเมืองกลัวได้ทุกครั้ง ซึ่งเป็นความกลัวในสิ่งที่คลุมเครือ เหมือนกับภูตผีกลัวข้าวสารเสก ถ้าสาดมาเมื่อไรก็ได้ผลทุกครั้งไป และเกิดปัญหายุ่งเหยิงกันไปหมด 
"ผมว่า เราต้องถามหาความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แสดงความรับผิดชอบพิจารณาตัวเอง ประชาชนก็ต้องแสดงความรับผิดชอบไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปจากนายกรัฐมนตรี" พร้อมเชื่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจในการแก้ รธน. ตามร่างแก้ ม. 256 แล้ว ย่อมผ่านการโหวตในสภาแน่นอน  
นายจตุพร กล่าวเตือนนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวกิจกรรมสังคมว่า ความพยายามแสวงหาความสำเร็จจากการแก้ไขรายมาตรา โดยประกาศล่ารายชื่อประชาชนนั้น แต่ถ้าได้มา 50,000 ชื่อ ตามอย่างการเคลื่อนไหวและเสนอร่างแก้ไข รธน.ฉบับประชาชนของไอลอร์แล้ว ทำอะไรได้ 
อีกอย่าง วันนี้ปัญหาประเทศเต็มไปหมด และภายใต้รูปแบบการปกครองของ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ไขไม่ได้ อย่างไรเสีย ระบบของคนพวกนี้จะอยู่ไปอีก 4 ปี และได้รัฐบาลภายใต้ปัญหานี้มาแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้สักทาง ประชาชนหมดหวัง แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร  
"ผมจึงชวนทุกฝ่ายเลิกมองเขา มองเรา ตลอด 15 ปีมาแล้วฝ่ายผู้มีอำนาจต้องการให้เราขัดแย้งกันอยู่ต่อไป เพราะเขาจะปกครองง่าย ดังนั้น เวลานี้เรารู้เท่าทันผู้ปกครอง ที่อยากให้คนหัวร้อน เกิดทะเลาะกันแบบนี้ เราควรคิดอ่านเพื่อชาติบ้านเมืองสักครั้ง ถ้ายังมีเขา-เรา มีความอคติเหมือนเดิม ประยุทธ์ก็จะอยู่ยั่งยืนยง หากเราสามัคคีกัน ประยุทธ์สู้ประชาชนไม่ได้ วันนี้จึงเอาข้อเดียวไล่ประยุทธ์ ออกไปให้เสียสละเพื่อบ้านเมือง" 
นายจตุพร ยกตัวอย่างคำพูดสมมุติว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ พูดว่าจะให้แก้ รธน.ผ่านรัฐสภา ด้วยการหารือฝ่ายกฎหมายว่าจะส่งคำร้องถึงศาล รธน.อีกครั้ง เพราะการแก้ รธน.เป็นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน หรือพูดว่า ถ้าผ่านวาระ 3 จะชะลอนำขึ้นทูลเกล้าฯก่อน เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด ถ้าสมมุติที่ผ่านมาได้พูดเป็นเช่นนี้ ตนจะไม่ว่าอะไรสักครั้งเลย เพราะเห็นถึงความรับผิดชอบ 
ดังนั้น ตนอยากบอกคนจะออกมาเสนอแก้ รธน.รายมาตราว่า อย่าโง่ซ้ำซาก ไม่มีวันสำเร็จ เพราะ รธน.ถูกออกแบบไว้ให้ฉีก เว้นแต่ประชาชนสามัคคีกัน จึงอยากให้ไปทบทวนความคิด เนื่องจากประวัติศาสตร์การแก้ รธน. ได้บอกไว้ชัดเจนแก้รายมาตราก็ไม่ได้ และขณะนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง 
"ปัญหาของชาติอยู่ที่ประยุทธ์ หากประยุทธ์ ยังอยู่ แก้ไข รธน.ไม่มีวันสำเร็จ ไหนๆแล้วเอากันสักตั้งไม่ดีหรือ ร่วมทอดกฐินสามัคคี ถ้าเอาประยุทธ์ข้อเดียว ไล่ออกไป ไม่ดีกว่าหรือ" 
นายจตุพร ย้ำว่า ถ้านักการเมืองยังคิดมิติเดิมๆอีก ก็ต้องเจอคนคุมเกมในสภาอย่างนายไพบูลย์และนายสมชาย แสวงการ สว. และประเทศจะยอมให้คนเหล่านี้คุมชะตากรรมประเทศมายาวนานตั้งแต่ สว.แต่งตั้งก่อนยึดอำนาจ แล้วเป็น สนช. จากนั้นถูกพล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งเป็น สว.อีก คนพวกนี้จึงรู้เห็นทางหมด รู้แจ้งถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ 
"วันนี้ เราไม่มีทางอื่นเลย อย่าไปแก้รายมาตราให้เสียเวลาเลย มันแก้ปัญหาไม่ได้ ทางเดียวเท่านั้นคือ ประยุทธ์ ออกไป แล้วเราจะได้ รธน.สำเร็จ อย่าห่วงว่า ประยุทธ์ ออกแล้วใครจะมา เอาออกไปก่อน" 
พร้อมย้ำว่า ตนจึงชวนพี่น้องมาร่วมคิดอ่านกัน ถึงเวลาแล้ว เพราะ 7 ปีผ่านมาก็มากพอ ที่เราจะต้องออกไปส่งเสียงกัน พูดแบบนี้ไม่ใช่การยุยงปลุกปั่น แต่เป็นการใช้สิทธิตาม รธน. เพื่อร่วมกันส่งเสียงว่า ประยุทธ์ ออกไป